1. สัดส่วนของสนามแบดมินตัน

2. ขนาดสนามแบดมินตัน

3. สนามแบดมินตันเดี่ยว

4. สนามแบดมินตันคู่

5. สีทาพื้นสนามแบดมินตัน

6. สีทาพื้นสนามแบดมินตันแบบอะครีลิค Acrylic

7.ลักษณะสนามแบดมินตันที่ดี

1. สัดส่วนของสนามแบดมินตัน

สนามกีฬาแต่ละชนิดจะมีมาตรฐานสัดส่วนที่แตกต่างกันไป การใช้โทนสีของสนาม หรือพื้นผิวที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นการทาสีพื้นสนามกีฬาให้ถูกต้องตามกฎ สัดส่วน หรือมาตรฐาน จะต้องรู้จักเลือกสีทาพื้นสนามกีฬาให้เหมาะสมและรู้จักสัดส่วนตามมาตรฐานสากลของสนามกีฬาแต่ละประเภท ดังนี้

สนามแบดมินตัน คือ พื้นที่ที่ใช้สำหรับการแข่งขันแบดมินตัน ซึ่งมักจะมีขนาดมาตรฐานตามกฎกติกาของกีฬาแบดมินตัน

ขนาดของสนามแบดมินตัน เป็นสนามแบดมินตัน เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง 6.10 เมตร ยาว 13.40 เมตร ความสูงไม่ควรต่ำกว่า 10 เมตรโดยวัดจากจุดต่ำสุดของคานหลังคา ด้านหลังสนามควรมีพื้นที่ปลอดภัยจากเส้นหลังสนามขั้นต่ำ 80 ซม

2.ขนาดสนามแบดมินตัน

ขนาดสนามแบดมินตัน สนามแบดมินตันมีการกำหนดเส้นขอบและเส้นกึ่งกลาง เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปตามกฎกติกาของกีฬาแบดมินตัน ขนาดของสนามแบดมินตันมักจะมีขนาดมาตรฐานดังนี้: 

1.  สนามแบดมินตันเดี่ยว:

   • ความยาว: 13.4 เมตร (44 ฟุต)
   • ความกว้าง: 5.18 เมตร (17 ฟุต)
   • เส้นลูกแบดมินตันที่ตัดกลาง (Net Line) ห่างจากสีของขอบสนามที่เป็นเส้นขอบลูกไป 1.55 เมตร (5 ฟุต 1 นิ้ว)
   • สูงของเสาลูกแบดมินตัน (Net Post) ต้องเป็น 1.55 เมตร (5 ฟุต 1 นิ้ว)

2.  สนามแบดมินตันคู่:

   • ความยาว: เหมือนกับสนามเดี่ยว (13.4 เมตร)
   • ความกว้าง: มีเส้นกึ่งกลางที่คั่นระหว่างสนามเดี่ยว กลางสนามถึงเส้นลูกแบดมินตันที่ตัดกลางต้องมีขนาด 0.76 เมตร (2.5 ฟุต)

3. สนามแบดมินตันเดี่ยว

สนามแบดมินตันเดี่ยว (Singles Court) คือพื้นที่สนามแบดมินตัน ที่ใช้ในการแข่งขันแบดมินตันระหว่างสองคน ซึ่งมีขนาดเป็นสนามแบดมินตันเดี่ยวตามมาตรฐานของกีฬาแบดมินตัน โดยมีลักษณะเด่นคือ:

• ความยาว: สนามแบดมินตันเดี่ยว มีความยาวประมาณ 13.4 เมตร (44 ฟุต)
• ความกว้าง: สนามแบดมินตันเดี่ยว มีความกว้างประมาณ 5.18 เมตร (17 ฟุต)
• สนามแบดมินตันเดี่ยว แบ่งเป็นสองฝั่งเท่ากันโดยใช้เส้นกึ่งกลางและเส้นขอบลูกแบดมินตันเพื่อกำหนดพื้นที่เล่นในการแข่งขัน
• ระยะห่างระหว่างเส้นลูกแบดมินตันที่ตัดกลาง (Net Line) กับเส้นขอบลูกแบดมินตัน (Baseline) คือ 6.1 เมตร (20 ฟุต)
• ระยะห่างระหว่างเส้นลูกแบดมินตันที่ตัดกลางไปยังเส้นสองข้าง (Singles Sidelines) คือ 3.05 เมตร (10 ฟุต)
• สูงของเสาลูกแบดมินตัน (Net Post) จะมีความสูงประมาณ 1.55 เมตร (5 ฟุต 1 นิ้ว) เพื่อตั้งโครงรองรับเครื่องยนต์ลูกแบดมินตัน

4. สนามแบดมินตันคู่

สนามแบดมินตันคู่ (Doubles Court) เป็นพื้นสนามแบดมินตันคู่ ที่ใช้ในการแข่งขันแบดมินตันระหว่างทีมสองคู่ (สำหรับผู้ชาย หรือ ผู้หญิง) โดยมีขนาดเล็กน้อยกว่าสนามเดี่ยว เนื่องจากมีพื้นที่ที่กว้างขึ้นเพื่อรองรับการเคลื่อนไหวของสองคนในทีมในเวลาเดียวกัน สำหรับสนามแบดมินตันคู่มักมีลักษณะเด่นดังนี้:

• ความยาว: สนามแบดมินตันคู่ มีความยาวเท่ากับสนามแบดมินตันเดี่ยว ซึ่งประมาณ 13.4 เมตร (44 ฟุต)
• ความกว้าง: สนามแบดมินตันคู่ มีความกว้างประมาณ 6.1 เมตร (20 ฟุต)
• ระยะห่างระหว่างเส้นลูกแบดมินตันที่ตัดกลาง (Net Line) กับเส้นขอบลูกแบดมินตัน (Baseline): เท่ากับ 6.1 เมตร (20 ฟุต) เหมือนกับสนามเดี่ยว
• ระยะห่างระหว่างเส้นลูกแบดมินตันที่ตัดกลางไปยังเส้นสองข้าง (Doubles Sidelines): สำหรับสนามแบดมินตันคู่ มีความยาวเพิ่มเป็น 6.4 เมตร (21 ฟุต)
• สูงของเสาลูกแบดมินตัน (Net Post): มีความสูงประมาณ 1.55 เมตร (5 ฟุต 1 นิ้ว) เหมือนกับสนามเดี่ยว

5. สีทาพื้นสนามแบดมินตัน

การเลือกใช้สีทาพื้นสนามแบดมินตันเกี่ยว ข้องกับประสิทธิภาพในการเล่นและปัจจัยที่ส่งผลต่อการเล่น เช่น ความสะดวกสบาย การมองเห็น และการเคลื่อนไหวของผู้เล่น 

พื้นสนามแบดมินตัน ที่แนะนำจะเป็น สีส้มอ่อนหรือสีเขียวอ่อน เนื่องจากสีเหล่านี้มีความเข้มอ่อนที่เหมาะสมในการช่วยให้ลูกบาดมินตันและผู้เล่นสามารถมองเห็นลูกแบบชัดเจน และลดความเป็นที่จะสะดุดตาขณะเล่น เพื่อความสะดวกสบายและป้องกันการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม 

การใช้สีทาพื้นสนามแบดมินตันสีเขียว มีข้อดีหลายประการ เช่น:

1. ความคล้ายคลึงกับสนามหญ้าจริง:สีทาพื้นสนามแบดมินตันสีเขียวช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่คล้ายกับสนามหญ้าจริง ทำให้ผู้เล่นมีประสบการณ์การเล่นที่ใกล้เคียงกับการเล่นบนสนามหญ้าจริงมากขึ้น

2. การมองเห็นลูกบาดมินตันได้ชัดเจน: สีทาพื้นสนามแบดมินตันสีเขียว ช่วยเพิ่มความสว่างและชัดเจนในการมองเห็นลูกบาดมินตัน ทำให้ผู้เล่นสามารถตอบสนองกับการเคลื่อนไหวของลูกได้อย่างถูกต้อง

3. การเคลื่อนไหวที่สะดวกสบาย: สีทาพื้นสนามแบดมินตันสีเขียว ทำให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนไหวบนพื้นสนามแบดมินตันได้สะดวกสบาย ลดการกระแทกและการบาดเจ็บขณะเล่น

4. ความทนทานและความแข็งแรง:สีทาพื้นสนามแบดมินตันสีเขียว สี Acrylic มีความทนทานต่อการใช้งานและความแข็งแรงที่ดี ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและต้องการการดูแลรักษาน้อยลง

5. ความปลอดภัย: สีทาพื้นสนามแบดมินตันสีเขียว ที่ใช้ในสนามแบดมินตันมักจะมีความปลอดภัยสูง ไม่มีสารเคมีที่อันตรายต่อสุขภาพและมีการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้เล่น

6. สีทาพื้สนามแบดมินตันแบบอะครีลิค Acrylic

การใช้สีทาพื้นสนามแบดมินตันแบบอะครีลิค (Acrylic) มีข้อดีหลายประการที่สามารถยกย่อยได้ดังนี้:

1. ความทนทานและความแข็งแรง: สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี Acrylic มีความทนทานที่สูงต่อการใช้งานทั้งในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน มันสามารถทนต่อการใช้งานที่มีประสบการณ์มากมาย เช่น การเล่นกีฬาแบดมินตัน การใช้สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี Acrylic  แบบนี้จะทำให้สนามมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและสามารถใช้งานได้ในระยะเวลานาน

2. การดูแลรักษาที่ง่าย: สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี Acrylic  มักมีการดูแลรักษาที่ง่าย เพียงแค่ทำความสะอาดพื้นสนามแบดมินตัน อย่างเป็นระบบ ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้เครื่องพ่นน้ำแรงดันสูงหรือเครื่องล้างแบบประสิทธิภาพสูง

3. เวลาการแห้งเร็ว: สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี Acrylic  มักจะแห้งเร็ว ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานสนามแบดมินตันได้เร็วขึ้น ลดเวลาในการรอให้สนามแบดมินตันแห้ง

4. ความสวยงามและความสดใส: สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี Acrylic  มีสีสันสดใสและมีความสวยงาม เมื่อสีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี Acrylic จะทำให้สนามแบดมินตันดูมีสีสันและมีชีวิตชีวามากขึ้น

5. สร้างสภาพแวดล้อมที่คล้ายกับสนามจริง: การสีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี Acrylic เป็นสีเขียว ทำให้สนามดูคล้ายกับสนามหญ้าจริงมากขึ้น ช่วยให้ผู้เล่นมีประสบการณ์การเล่นที่ใกล้เคียงกับการเล่นบนสนามแบดมินตันจริง

7.ลักษณะสนามแบดมินตันที่ดี

การมีสนามแบดมินตันที่มีลักษณะเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้อย่างเต็มที่และมีประสบการณ์ที่ดีในการแข่งขันแบดมินตัน สนามแบดมินตันที่ดีมักมีลักษณะต่อไปนี้:

1. พื้นที่เหมาะสม: สนามแบดมินตัน ควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเล่นอย่างอิสระโดยไม่มีการขัดข้องจากสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ในระหว่างการเล่น

2. การตกแต่งที่เหมาะสม: การตกแต่งสนามแบดมินตัน ควรมีการจัดเรียงที่สะดวกสบายและประณีตตามมาตรฐานของกีฬาแบดมินตัน

3. การไล่ที่ที่ชัดเจน: สนามแบดมินตั นควรมีเส้นขอบชัดเจนและประณีต เพื่อช่วยให้ผู้เล่นและผู้ตัดสินสามารถแยกแยะพื้นที่เล่นได้อย่างชัดเจน

4. สภาพพื้นที่ที่เรียบ: พื้นสนามแบดมินตัน ควรมีความราบเรียบเพื่อป้องกันการบาดเจ็บขณะเล่นและช่วยให้ลูกแบดมินตันเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก

5. ระยะห่างและสูงของเสาลูกแบดมินตันที่ถูกต้อง: ระยะห่างและสูงของเสาลูกแบดมินตันควรตรงตามมาตรฐาน ซึ่งจะช่วยให้เกมเป็นไปอย่างเป็นธรรมและชอบธรรม

6. ระยะห่างระหว่างเส้นลูกแบดมินตันที่ตัดกลาง: ระยะห่างควรเป็นไปตามมาตรฐานเพื่อให้การเล่นเป็นไปอย่างเท่าเทียมและชอบธรรม

7. การระบายสีที่เหมาะสม: สีทาพื้นสนามแบดมินตัน ควรมีความสดใสและเหมาะสมกับการเล่นแบดมินตัน เช่น สีเขียวอ่อนหรือเขียวเข้มที่มีความคล้ายกับสนามหญ้าจริง