สนาม pickleball

1. สนาม pickleball

2. พื้นสนาม pickleball

3. ลักษณะของสนาม pickleball

4. ขนาดสนาม pickleball

5. คุณสมบัติสนาม pickleball

6. สีพื้นสนาม pickleball

7. พื้นสนาม pickleball มีกี่แบบ

8. การดูแลรักษาพื้นสนาม pickleball

9.องค์ประกอบหลัก:

8. การดูแลรักษาพื้นสนาม pickleball

1. สนาม pickleball

สนาม Pickleball เป็นสนามกีฬาที่ใช้สำหรับการแข่งขัน Pickleball ซึ่งเป็นกีฬาที่เล่นได้ทั้งในระดับกีฬาสมัยรุ่นและสมัยผู้สูงอายุ มันเป็นการผสมผสานระหว่างเทนนิส แบดมินตัน และตะกร้อ โดยมีการใช้ลูกบอลที่มีรูและไม้โมเดลที่มีรูเหมือนกัน การเล่นมีกฎที่เฉพาะเจาะจง และใช้พื้นที่สนามที่เป็นพื้นหินเป็นหลัก สนาม Pickleball มักจะมีขนาดเล็กกว่าสนามเทนนิส และมักจะเล่นในคู่ๆ หรือทีม

สนาม pickleball นี้มักจะมีเส้นที่กำหนดขอบเขตของการเล่น โดยมักจะมีเส้นขอบเส้นเกม (baseline) เส้นขอบข้าง (sidelines) และเส้นที่ใช้สำหรับการส่งลูกบอลข้าม (non-volley line) อีกทั้งยังมีเสาเน็ตติดอยู่ที่กลางสนาม pickleball เพื่อใช้เป็นแบ่งความสูงของเน็ต

สนาม Pickleball เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนที่ต้องการเล่นกีฬาแบบมีการเคลื่อนไหวและมีความสนุกสนานโดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมากนัก และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการออกกำลังกายแบบเป็นกีฬาชนิดหนึ่ง

8. การดูแลรักษาพื้นสนาม pickleball

2. พื้นสนาม pickleball

พื้นสนาม Pickleball คือ พื้นที่ที่ใช้สำหรับการแข่งขันและการฝึกซ้อมกีฬา Pickleball ซึ่งเป็นกีฬาที่เล่นระหว่างสองคู่หรือสี่คน โดยใช้ไม้เทนนิสและลูกบอลที่มีรูแบบพิกเกิล (pickleball)

ในการแข่งขัน สนาม Pickleball มักจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีขนาดเล็กกว่าสนามเทนนิส โดยมักมีลักษณะเป็นพื้นที่ที่ถูกแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ เพื่อระบุพื้นที่เล่นและพื้นที่ที่จำกัดการเคลื่อนไหวของนักกีฬา เช่น Non-VolleyZone หรือ Kitchen Zone และ Baseline เป็นต้น

 สนาม Pickleball มักจะมีผนังรอบ สนาม Pickleball เพื่อป้องกันลูกบอลหลุดออกนอก สนาม Pickleball และเพิ่มความปลอดภัยในการเล่น สนาม Pickleball มักมีขนาดเล็กกว่าสนามเทนนิสและมักใช้ที่สนามแบบกลางแจ้งหรือภายในสถานที่ปิคเน็กซ์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่สามารถสร้างสนาม Pickleball 

สนาม Pickleball มักมีเส้นเทนนิสอยู่ทั้งสองข้างของสนาม ในลักษณะเดียวกับเส้นเทนนิสบนสนามเทนนิสแต่มีความยาวและความสูงต่ำกว่าเส้นเทนนิสบนสนามเทนนิสโดยทั่วไป

8. การดูแลรักษาพื้นสนาม pickleball

3. ขนาดสนาม pickleball

ขนาดสนามpickleball มีลักษณะเฉพาะที่ถูกกำหนดโดยมาตรฐานของสหพันธ์pickleballนานาชาติ (FIVB) และสถาบันกีฬาชาติ (NCAA) โดยลักษณะสำคัญของสนาม pickleball ประกอบด้วย:

  1. ขนาดพื้นที่: สนามpickleball มักมีขนาดประมาณ 6.1เมตร (20 ฟุต) ยาวและ 13.41 เมตร (44 ฟุต) กว้าง โดยมีพื้นที่ว่างรอบขอบสนามอย่างน้อย 3 เมตร (10 ฟุต) และที่สำหรับเป้าหมายอยู่ตรงกลางด้านยาวของ สนาม Pickleball
  2. เส้นขอบเขต: บริเวณด้านรอบขอบ สนาม Pickleball จะมีเส้นขอบเขตเป็นเส้นของฝั่งและเส้นขอบเขตเป็นเส้นของบริเวณในของสนาม Pickleball ทั้งสองเส้นนี้มักจะมีเครื่องหมายสีสันสดใสเพื่อช่วยให้ผู้เล่นและผู้ตัดสินเห็นตัวของเส้นขอบได้ชัดเจน
  3. เครื่องหมายประตู: ในสนาม pickleball จะมีเครื่องหมายประตูติดตั้งอยู่ทั้งสองด้านของสนามตรงกลางของด้านยาว
  4. พื้นผิว: สนาม pickleball มักจะมีพื้นผิวที่เรียบเนื่องและไม่มีสิ่งกีดขวาง มักใช้วัสดุเช่น หินแกรนิต หรือผิวสังเคราะห์ที่เหมาะสำหรับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น
  5. ระบบไฟฟ้า: สนาม pickleball ในสถานที่ที่มีการแข่งขันในตอนกลางคืนหรือในสถานที่ที่ไม่มีแสงสว่างมักจะติดตั้งระบบไฟฟ้าเพื่อให้มีแสงสว่างสำหรับการแข่งขันในช่วงเวลาที่มืด

8. การดูแลรักษาพื้นสนาม pickleball

4. คุณสมบัติสนาม pickleball

คุณสมบัติ สนาม Pickleball ที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมสำหรับการเล่นและแข่งขัน มักจะมีคุณสมบัติที่ต่อไปนี้:

  1. พื้นที่เพียงพอและเหมาะสม: สนาม Pickleball ควรมีพื้นที่เพียงพอที่จะอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวของผู้เล่นทั้งสองฝ่ายและลูกบอล โดยมีขนาดเล็กกว่าสนามเทนนิสแต่เพียงพอที่จะให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมได้อย่างมีความสุขและสะดวกสบาย
  2. ผนังครอบสนาม: การติดตั้งผนังครอบ สนาม Pickleball สามารถช่วยป้องกันลูกบอลหลุดออกนอกสนาม และเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้เล่น
  3. Non-Volley Zone (Kitchen): การเข้าใช้พื้นที่ Non-Volley Zone ที่มีขนาดและตำแหน่งที่เหมาะสม จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมได้อย่างมีกลยุทธ์และสร้างความสมดุลในการแข่งขัน
  4. ความเรียบของพื้น: การมีพื้นสนาม Pickleball ที่เรียบและมีความแข็งแรงอย่างเหมาะสมจะช่วยให้การเคลื่อนไหวของผู้เล่นเป็นไปอย่างราบรื่นและเต็มที่
  5. ระบบเสาเน็ตที่มั่นคงและสมบูรณ์: เสาเน็ตที่ติดตั้งอย่างมั่นคงและสมบูรณ์ทำให้สามารถเล่นเกม Pickleball ได้อย่างสมบูรณ์และปลอดภัยตลอดเวลา
  6. การระบายน้ำที่ดี: การมีระบบระบายน้ำที่ดีสามารถช่วยให้ สนาม Pickleball มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเล่น Pickleball ในทุกสภาพอากาศและสภาพอากาศ
  7. การใช้วัสดุที่มีคุณภาพ: การสร้างสนาม Pickleball ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพสูงและทนทานสามารถช่วยให้สนามมีความทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น

5. สีพื้นสนาม pickleball

สีที่ใช้บนพื้นสนาม Pickleball มักจะเป็นสีเขียวเข้มหรือสีเขียวอ่อน สีเขียวที่ใช้บนพื้น สนาม Pickleball มีหน้าที่เพื่อระบุพื้นที่เล่นและกำหนดขอบเขตของ สนาม Pickleball ในการแข่งขัน

การใช้สีเขียวช่วยให้ผู้เล่นสามารถระบุพื้นที่ที่จะใช้สำหรับการแข่งขันและพื้นที่ Non-Volley Zone (Kitchen Zone) ได้โดยง่ายและชัดเจน โดยสีเขียวที่ใช้บนพื้น สนาม Pickleball จะมีความสว่างและคงที่เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพแวดล้อม และช่วยให้ผู้เล่นสามารถเรียนรู้กฎและกติกาของ Pickleball ได้อย่างง่ายดาย

8. การดูแลรักษาพื้นสนาม pickleball

6. พื้นสนาม pickleball มีกี่แบบ

พื้นสนาม Pickleball ทำจากวัสดุหลากหลายแบบได้ ซึ่งการเลือกใช้วัสดุขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการของพื้นสนาม Pickleball แต่ละแห่ง วัสดุที่ใช้สร้างพื้นสนาม Pickleball ที่พบบ่อยได้แก่:

  1. คอนกรีต: คอนกรีตเป็นวัสดุที่ทนทานและเหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาว การสร้างพื้นสนาม Pickleball ด้วยวัสดุคอนกรีตสามารถทำให้สนามมีความแข็งแรงและคงทนต่อการใช้งาน
  2. วัสดุยาง (Rubber Surface): วัสดุยางเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นและรับน้ำหนักได้ดี การสร้างสนาม Pickleball ด้วยวัสดุยางสามารถทำให้สนามมีความอ่อนนุ่มและเหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีประสบการณ์น้อยในการเล่น

8. การดูแลรักษาพื้นสนาม pickleball

7. การดูแลรักษาพื้นสนาม pickleball

การดูแลรักษาพื้นสนาม Pickleball เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พื้นสนาม Pickleball มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและให้ประสบการณ์การเล่นที่ดีแก่ผู้เล่น ดังนั้นนี่คือบางขั้นตอนในการดูแลรักษาพื้นสนาม Pickleball:

  1. ทำความสะอาดประจำ: ทำความสะอาดพื้นสนาม Pickleball อย่างสม่ำเสมอโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและสะสมที่อาจทำให้พื้นสนาม Pickleball เปียกหรือลื่นไถล
  2. ล้างหรือสเปรย์ทำความสะอาด: ใช้น้ำยาล้างสำหรับพื้นสนาม Pickleball หรือสเปรย์ทำความสะอาดพื้นสนาม Pickleball เพื่อกำจัดคราบสกปรกหรือเสียงหลังเล่น
  3. ตรวจสอบและซ่อมแซม: ตรวจสอบสภาพของพื้นสนาม Pickleball เป็นประจำเพื่อตรวจสอบว่ามีความเสียหายหรือส่วนที่เสื่อมสภาพหรือไม่ และทำการซ่อมแซมทันทีเมื่อพบปัญหา
  4. บำรุงรักษาผิวพื้น: ควรทาสารกันสนิมหรือสารป้องกันการเป็นรอยขีดข่วนบนผิวพื้นสนาม Pickleball เพื่อป้องกันการสึกหรอของวัสดุต่าง ๆ
  5. รักษาความราบรื่น: การทำความสะอาดและปรับแต่งพื้นสนาม Pickleball เพื่อรักษาความราบรื่นของพื้นสนาม Pickleball ให้มีคุณภาพและสมบูรณ์
  6. การรักษาสี: ในกรณีที่ใช้สีทาบนพื้นสนาม Pickleball ควรพ่นหรือทาสารที่ใช้ในการรักษาสีอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการกลายสีหรือสึกหรอของสี
  7. ระมัดระวังเรื่องน้ำ: ให้ความสำคัญกับการระบายน้ำอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันน้ำที่ค้างอยู่บนพื้นสนาม Pickleball ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายได้
  8. การบำรุงรักษาอุปกรณ์: การดูแลรักษาอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่น Pickleball เช่น เสาเน็ต และลูกบอล เพื่อให้มีการใช้งานที่เหมาะสมและปลอดภัย

8.องค์ประกอบหลัก:

  1. เส้นแบ่งเขต (Lines):

    • เส้นแนวข้าง (Sideline) และเส้นท้ายสนาม (Baseline)
    • เส้นแบ่งครึ่งสนาม (Centerline) แบ่งสนามออกเป็นฝั่งซ้ายและขวา
    • เส้น Non-Volley Zone (เรียกอีกอย่างว่า “Kitchen”) ซึ่งอยู่ด้านหน้าของตาข่าย 7 ฟุต (ประมาณ 2.13 เมตร) ทั้งสองฝั่ง

  2. ตาข่าย:

    • ความสูงของตาข่ายที่ขอบ: 36 นิ้ว (ประมาณ 91.44 ซม.)
    • ความสูงของตาข่ายตรงกลาง: 34 นิ้ว (ประมาณ 86.36 ซม.)

  3. พื้นที่ Non-Volley Zone:

    • พื้นที่นี้คือบริเวณ 7 ฟุต (ประมาณ 2.13 เมตร) จากตาข่ายเข้าสู่ฝั่งสนามของผู้เล่นแต่ละฝ่าย ซึ่งห้ามผู้เล่นตีลูกในบริเวณนี้โดยตรง (ห้ามวอลเลย์ในโซนนี้)

Pickleball เป็นกีฬาที่เล่นได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง บนพื้นผิวเรียบ เช่น คอร์ทเทนนิส คอร์ทบาสเก็ตบอล หรือพื้นผิวสังเคราะห์ที่ออกแบบมาเฉพาะ