สนามเด็กเล่น

1.สนามเด็กเล่น

2. พื้นสนามเด็กเล่น

3. การพิจารณาเลือกใช้วัสดุของพื้นสนามเด็กเล่น

4. สีทาพื้นสนามเด็กเล่น

5. พื้นสนามเด็กเล่น พื้นยาง EPDM

6. ข้อดี – พื้นสนามเด็กเล่น EPDM

7. ขั้นตอนการติดตั้งพื้นสนามเด็กเล่น EPDM

8. การดูแลรักษาพื้นสนามเด็กเล่น EPDM

2. พื้นสนามเด็กเล่น EPDM

1. สนามเด็กเล่น

สนามเด็กเล่น” หรือ “playground” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เด็กๆ ได้มีสนุกสนาน และเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างมีความสุข เพื่อให้เด็กๆ ได้มีสนุกสนาน และเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างมีความสุข .

สนามเด็กเล่นมักจะมีอุปกรณ์เล่นต่างๆ เช่น กองเสาเลื่อน, ลู่น้ำ, บันไดขึ้นลง, ล้อหมุน, และอุปกรณ์เล่นอื่นๆ ที่ช่วยให้เด็กๆ พัฒนาทักษะต่างๆ อย่างเช่น การพัฒนากล้ามเนื้อ, และการฝึกสมองในการคิดเชิงตรรกะและสร้างสรรค์

สนามเด็กเล่นยังเป็นจุดนัดพบสังคมสำหรับเด็กและผู้ปกครองในชุมชนด้วย ทำให้มีความสำคัญอย่างมากในการสร้างสังคมที่ดีและสนับสนุนการเติบโตของเด็กๆ อย่างเหมาะสม

2. พื้นสนามเด็กเล่น

2. พื้นสนามเด็กเล่น

พื้นสนามเด็กเล่น มักจะมีการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของเด็ก โดยมักใช้วัสดุที่มีความทนทานและปลอดภัย พื้นสนามเด็กเล่น มีหลายประเภทตามวัสดุที่ใช้สร้างขึ้น ดังนี้:

  1. พื้นสนามเด็กเล่น – ยางปูพื้น (Rubber Mulch): เป็นพื้นสนามเด็กเล่น ที่ใช้วัสดุที่มีความนุ่มนวลและสามารถดูดสะเทือนได้ เหมาะสำหรับการใช้งานในสนามเด็กเล่น
  2. พื้นสนามเด็กเล่น – พื้นคอนกรีต (Concrete Surface): เป็นพื้นสนามเด็กเล่น ที่มีความทนทานและคงทนต่อสภาพอากาศและการใช้งาน แต่ไม่มีความนุ่มนวลเท่ากับวัสดุอื่น
  3. พื้นสนามเด็กเล่น – พื้นยาง EDM (Rubber Surface): เป็นพื้นสนามเด็กเล่น ที่มีความนุ่มนวลและสามารถรับน้ำได้ดี มักไม่ลื่นเมื่อเปียก เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศเปียกชื้น
  4. พื้นสนามเด็กเล่น – พื้นกระเบื้อง (Tile Surface): เป็นพื้นสนามเด็กเล่น ที่มีความสะดวกในการทำความสะอาดและดูแลรักษา และมักมีความทนทานสูง
  5. พื้นสนามเด็กเล่น – หญ้าเทียม (Artificial Turf): เป็นพื้นสนามเด็กเล่น สวยงาม สะดวกในการดูแลรักษา และมีความนุ่มนวลเหมือนกับหญ้าจริง
  6. พื้นสนามเด็กเล่น – พื้นไม้ (Wooden Surface): เป็นพื้นสนามเด็กเล่น ที่มีลักษณะธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่อาจจะต้องการการบำรุงรักษาเพื่อรักษาความทนทานในระยะยาว
  7. พื้นสนามเด็กเล่น – พื้นพลาสติก (Plastic Surface): เป็นพื้นสนามเด็กเล่น ที่มักใช้ในส่วนของเล่นที่มีการเลื่อนลื่น เช่น ลู่น้ำ และมีความทนทานต่ออุปกรณ์เล่นที่ใช้กับน้ำ
  8. พื้นสนามเด็กเล่น – พื้นทราย (Sand Surface): เป็นพื้นสนามเด็กเล่น ที่มีลักษณะเดียวกับการเล่นบนทราย ให้ประสบการณ์ทางสัมผัสที่นุ่มนวลและสนุกสนาน

2. พื้นสนามเด็กเล่น

3. การพิจารณาเลือกใช้วัสดุของพื้นสนามเด็กเล่น

การเลือกใช้วัสดุของพื้นสนามเด็กเล่นควรพิจารณาถึง

  1. พื้นสนามเด็กเล่นควรความปลอดภัย: วัสดุที่ใช้ทำพื้นสนามเด็กเล่น ควรเป็นมิตรต่อการใช้งานของเด็ก ไม่ควรมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เพื่อลดการบาดเจ็บในกรณีที่เด็กตกลงมาจากอุปกรณ์เล่น
  2. ความนุ่มนวลของพื้นสนามเด็กเล่น: พื้นสนามเด็ก ควรมีความนุ่มนวลเพียงพอเมื่อเด็กตกลงมา ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ เช่นยางปูพื้นหรือผิวพื้นยางจะเป็นตัวเลือกที่ดีในเรื่องนี้
  3. การระบายน้ำของพื้นสนามเด็กเล่น: หากสนามเด็กเล่นต้องการมีการใช้งานในสภาพอากาศเปียกชื้น วัสดุ พื้นสนามเด็ก จะช่วยสามารถระบายน้ำได้ดี และช่วยป้องกันการสะสมของน้ำและลื่นเลื่อน
  4. ความทนทานของพื้นสนามเด็กเล่น: พื้นสนามเด็กเล่น วัสดุควรมีความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว และสามารถทนต่อสภาพอากาศ แสงแดด และความเสียหายจากการใช้งานได้
  5. ความสวยงามและความเหมาะสำหรับสิ่งแวดล้อม: การเลือกใช้วัสดุทำพื้นสนามเด็กเล่นควรพิจารณาถึงความสวยงามและความเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมของสนามเด็กเล่น
  6. การดูแลรักษาง่ายของพื้นสนามเด็กเล่น: วัสดุของพื้นสนามเด็กเล่น ควรมีความสะดวกในการดูแลรักษา เช่น ง่ายต่อการทำความสะอาด และมีความทนทานต่อการใช้งานระยะยาวโดยไม่ต้องมีการซ่อมแซมบ่อยครั้ง
  7. ความเหมาะสมกับการใช้งานของเด็ก: การเลือกใช้วัสดุพื้นสนามเด็กเล่น ควรเหมาะสมกับกิจกรรมและอุปกรณ์เล่นที่มีอยู่ในสนามเด็กเล่น เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างเหมาะสมและสนุกสนานสำหรับเด็กๆ

2. พื้นสนามเด็กเล่น

4. สีทาพื้นสนามเด็กเล่น

สีทาพื้นสนามเด็กเล่น จะต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยและความน่าสนใจสำหรับเด็กๆ สีทาพื้นสนามเด็ก ที่นิยมใช้สำหรับพื้นสนามเด็กเล่นมีดังนี้:

  1. สีทาพื้นสนาม – สีดำ (Black): สีทาพื้นสนามสีดำ มักถูกใช้บนพื้นสนามเด็กเล่นที่มีอุปกรณ์เล่นที่มีส่วนของโลหะหรือพลาสติก เนื่องจากสีดำมักมีความทนทานและไม่แสดงคราบง่ายๆ ทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา
  2. สีทาพื้นสนาม – สีน้ำเงิน (Blue): สีทาพื้นสนามสีน้ำเงิน มักถูกใช้บ่อยในพื้นสนามเด็กเล่น เพราะมีลักษณะที่สดใสและทำให้มองเห็นได้ง่าย ส่วนใหญ่จะใช้สีน้ำเงินเข้มหรือสีทะเล เพื่อให้สนุกสนานและเย้ายวนกับบรรยากาศ
  3. สีทาพื้นสนาม – สีเขียว (Green): สีทาพื้นสนามสีเขียว มักถูกใช้เป็นสีทาพื้นสนามเด็กเล่น เนื่องจากสีนี้มีความเป็นธรรมชาติ และเป็นสีที่สร้างความสมดุลในบรรยากาศ ทำให้เหมาะสำหรับการเล่นและฝึกฝนของเด็กๆ
  4. สีทาพื้นสนาม – สีแดง (Red): สีทาพื้นสนามสีแดง อาจถูกใช้ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและการผจญภัยในสนามเด็กเล่น แต่การใช้สีแดงควรพิจารณาเพราะสีนี้มักทำให้ความตึงเครียดเมื่อใช้ในปริมาณมาก
  5. สีทาพื้นสนาม – สีส้ม (Orange): สีทาพื้นสนามสีส้ม เป็นสีที่สดใสและมีความเป็นมิตรต่อการมองเห็น เช่นเดียวกับสีเขียว สีส้มสามารถสร้างบรรยากาศที่มีความสนุกสนานและเข้ากับธรรมชาติได้ดี

2. พื้นสนามเด็กเล่น EPDM

5. พื้นสนามเด็กเล่น พื้นยาง EPDM

EPDM (Ethylene Propylene Diene Monomer) เป็นวัสดุยางสังเคราะห์ที่มักถูกใช้ในการสร้างพื้นสำหรับสนามเด็กเล่น เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมกายภาพ

คุณสมบัติของพื้นยาง EPDM มีดังนี้

  1.  พื้นยาง EPDM เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการใช้งานในสนามเด็กเล่น โดยสามารถย่อยสลายได้ช้า
  2. พื้นยาง EPDM ทนทานต่อสภาพอากาศ
  3.  พื้นยาง EPDM ทนทานต่อแสงแดดและสารเคมี
  4.  พื้นยาง EPDM มีความยืดหยุ่นสูง รองรับการตกกระแทก กันลื่น สีสันสวยงาม
  5.  พื้นยาง EPDM ปกปิดพื้นคอนกรีต เม็ดยาง EPDM ผลิตจากยางพาราสังเคราะห์ผสมสีในตัว
  6.  พื้นยาง EPDM มีหลากหลายสีสันให้เลือก สามารถทำลวดลายได้

2. พื้นสนามเด็กเล่น EPDM

6. ข้อดี – พื้นสนามเด็กเล่น พื้นยาง EPDM

 พื้นยาง EPDM (Ethylene Propylene Diene Monomer) เป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการสร้างพื้นสนามเด็กเล่นเนื่องจากมีคุณสมบัติและข้อดีหลายประการดังนี้:

  1.  พื้นยาง EPDM ความทนทานและคงทน:  พื้นยาง EPDM เป็นวัสดุที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศ แสงแดด และสารเคมีต่างๆ ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และไม่เสียคุณสมบัติลดลงในระยะยาว
  2.  พื้นยาง EPDMมีความนุ่มนวล:  พื้นยาง EPDM มีความยืดหยุ่นและนุ่มนวลที่ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเด็กตกลงพื้น ทำให้เด็กมีความปลอดภัยมากขึ้น
  3.  พื้นยาง EPDM มีสีสันสวยงามและตกแต่งง่าย:  พื้นยาง EPDM มีความสามารถในการจับสีได้ดี สามารถสร้างพื้นที่สนามเด็กเล่นที่สวยงาม สดใส และมีการเข้ากันกับการใช้งานในสวนเด็ก
  4.  พื้นยาง EPDM มีความปลอดภัย: พื้นยาง EPDM เป็นวัสดุที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะหรือวัสดุพิษ ทำให้เหมาะสำหรับในการใช่ทำเป็นพื้นสนามเด็กเล่น และมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยสุขภาพ
  5. พื้นยาง EPDM บำรุงรักษาง่าย: พื้นยาง EPDM เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการสะสมของสิ่งสกปรก สามารถทำความสะอาดได้ง่ายโดยใช้น้ำและสบู่ หรือการใช้เครื่องฉีดน้ำฉีดล้าง
  6. พื้นยาง EPDM ช่วยในการระบายน้ำ: การเลือกใช้ พื้นยาง EPDM ในสนามเด็กเล่นช่วยลดการสะสมของน้ำขัง และช่วยให้พื้นสนามเปียกชื้นระบายน้ำได้ดี

2. พื้นสนามเด็กเล่น EPDM

7. ขั้นตอนการติดตั้งพื้นสนามเด็กเล่น

  1. เตรียมพื้นที่สนามเด็กเล่น: ตรวจสอบและทำความสะอาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งพื้นยาง EPDM ให้เรียบร้อย หากพื้นสนามเด็กเล่น มีรอยร่องรอยหรือชิ้นส่วนที่แตก, ควรซ่อมแซมพื้นที่ดังกล่าวก่อนติดตั้ง
  2. ตรวจสอบความสม่ำเสมอของพื้นสนามเด็กเล่น: ให้ตรวจสอบระดับของสนามเด็กเล่น และแนวราบของพื้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ที่จะติดตั้งพื้นยาง EPDM มีความสม่ำเสมอเพียงพอสำหรับการใช้งาน
  3. ตรวจสอบและเตรียมพื้นผิว: ถ้ามีความจำเป็นให้ตรวจสอบรอยร่องรอยหรือช่องว่างในพื้นที่และซ่อมแซมตามความเหมาะสม โดยใช้วัสดุที่เหมาะสม 
  4. ตรวจสอบความเรียบเรียงของพื้น: ทำการเรียบเรียงและปรับแต่งพื้นที่ตามความเหมาะสม เพื่อให้พื้นผิวเป็นแบบแนวราบและตรงกับการติดตั้งพื้นยาง EPDM
  5. ตรวจสอบและเตรียมพื้นผิวสำหรับกาว: ทำความสะอาดพื้นผิวที่จะติดตั้งพื้นยาง EPDM โดยใช้น้ำและสบู่ และให้แห้งให้สนิท
  6. ติดตั้งพื้นยาง EPDM: นำชิ้นส่วนของ EPDM มาติดตั้งบนพื้นผิวที่เตรียมไว้ โดยใช้สายยางหรืออุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อช่วยในการวางตำแหน่งและติดตั้ง

2. พื้นสนามเด็กเล่น EPDM

8. การดูแลรักษาพื้นสนามเด็กเล่น

  1. การดูแลรักษาพื้นสนามเด็กเล่น พื้นยาง EPDM อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้พื้นผิวพื้นสนามเด็กเล่น มีความสวยงามและประสิทธิภาพในการใช้งานได้ในระยะยาว โดยสามารถลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ได้ในอนาคต
  2. ทำความสะอาดพื้นสนามเด็กเล่น เป็นระยะๆ: ควรทำความสะอาดพื้นสนามเด็กเล่น พื้นยาง EPDM เป็นระยะๆ เพื่อล้างคราบสกปรกและฝุ่นที่สะสมอยู่บนพื้นสนามเด็กเล่นใช้น้ำและสบู่หรือน้ำยาล้างจานเพื่อช่วยในการทำความสะอาด พื้นสนามเด็กเล่น
  3. หลีกเลี่ยงสารเคมีที่เข้มข้น: หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เข้มข้นหรือกระทำการทำความสะอาดด้วยเครื่องพ่นน้ำแรงดันสูง เนื่องจากอาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ
  4. ป้องกันการเกิดคราบ: การใช้ราวป้องกันคราบ หรือพื้นที่ร่มเงาสามารถช่วยลดการสะสมของคราบบนพื้นสนามเด็กเล่นได้
  5. ตรวจสอบประจุ: ตรวจสอบประจุของพื้นสนามเด็กเล่นเป็นระยะๆ เพื่อแก้ไขหรือซ่อมแซมทันทีเมื่อพบประจุหรือบริเวณที่สึกหรอใดๆ
  6. รักษาความสวยงาม: ควรรักษาความสวยงามของพื้นสนามเด็กเล่นโดยไม่มีการทิ้งขยะหรือวัสดุที่สามารถทำให้เสียหายบนพื้นผิว
  7. การซ่อมแซม: หากมีส่วนของพื้นสนามเด็กเล่น พื้นยาง EPDM ที่ชำรุดหรือเสียหาย ควรซ่อมแซมโดยทันทีเพื่อป้องกันการเสียหายที่มากขึ้น
  8. การบำรุงรักษา: ควรให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาพื้นสนามเด็กเล่น ทั้งการดูแลและการตรวจสอบเป็นระยะๆ เพื่อรักษาความสวยงามและประสิทธิภาพของพื้นสนาม