
1. สนามตะกร้อ
2. พื้นสนามตะกร้อ
3. มาตรฐานขนาดของพื้นสนามตะกร้อ
4. ลักษณะของสนามตะกร้อ
5. คุณสมบัติของพื้นสนามตะกร้อ
6. การเลือกใช้สีพื้นสนามตะกร้อ ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง
7. ประเภทสีทาพื้นสนามสนามตะกร้อ
8. พื้นสนามตะกร้อ มีกี่ประเภท
9. สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี Acrylic
10. สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี PU(Polyurethane)
11. สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี Expoxy
12. การดูแลรักษาพื้นสนามตะกร้อ
1. สนามตะกร้อ
สนามตะกร้อ คือ พื้นที่ที่ใช้สำหรับการแข่งขันและเล่นกีฬาตะกร้อ โดยมักจะมีลักษณะเป็นพื้นที่เรียบ มักมีขนาดที่ใหญ่พอสำหรับการทำกิจกรรมแข่งขันกีฬาแบบตะกร้อได้โดยสะดวก

เนื่องจาก กีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่น สนามตะกร้ออาจมีการติดตั้งเสาตะกร้อและเสาติดเน็ตตะกร้อที่แต่ละด้าน เพื่อให้สามารถเล่นได้ตามกฎกติกาของกีฬาตะกร้อได้อย่างถูกต้องและมีความปลอดภัยต่อผู้เล่น สนามตะกร้อมักจะอยู่ในสถานที่กลางแจ้งหรือภายในอาคารกีฬา โดยมักมีการจัดการแข่งขันต่างๆ และฝึกซ้อมกีฬาตะกร้อ นอกจากนี้ สนามตะกร้อยังเป็นสถานที่ที่นักกีฬาและคนทั่วไปสามารถมาฝึกซ้อมและเล่นกีฬาตะกร้อได้ในเวลาว่างๆ ด้วย
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
2. พื้นสนามตะกร้อ
พื้นสนามตะกร้อ คือ พื้นที่ที่ใช้สำหรับเล่นกีฬาตะกร้อ
- มักจะมีลักษณะที่เรียบเนียนและไม่มีอุปสรรคที่อาจทำให้ผู้เล่นลื่นไหลหรือเกิดอุบัติเหตุขณะการเล่น
- พื้นสนามตะกร้อมักถูกปูพื้นด้วยวัสดุที่มีความทนทานต่อการใช้งาน
- พื้นสนามตะกร้อมีคุณสมบัติที่ช่วยลดแรงกระแทกและช่วยให้ผู้เล่นสามารถกระโดดได้โดยไม่มีอุปสรรค
- นอกจากนี้ พื้นสนามตะกร้อมักมีการทาสีที่เหมาะสมเพื่อให้เป็นสนามตะกร้อที่มีลักษณะที่เหมาะสมและสวยงาม
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
3. มาตรฐานขนาดของพื้นสนามตระกร้อ
มาตรฐานขนาดของพื้นสนามตระกร้อ สำหรับการแข่งขันระดับโลก (FIVB – Federation Internationale de Volleyball) รวมถึงมาตรฐานของ NCAA (National Collegiate Athletic Association) และ NFHS (National Federation of State High School Associations) มีขนาดดังนี้:

ความยาว: 18 เมตร (59 ฟุต)
ความกว้าง: 9 เมตร (5 ฟุต)
ระยะระหว่างเสาตี: 9 เมตร (5 ฟุต)
ระยะจากเสาตีถึงขอบสนาม: 3 เมตร (8 ฟุต)
ระยะจากเสาตีถึงเส้นข้างขอบสนาม: 8 เมตร (3 ฟุต)
โดยมาตรฐานพื้นสนามตะกร้อ เหล่านี้อาจมีความแตกต่างไปตามระดับแข่งขันและองค์กรที่จัดการแข่งขัน ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมตามมาตรฐานที่ใช้ในสถานที่และการแข่งขันที่เฉพาะเจาะจงในที่นั้นๆ อีกครั้งก่อนการใช้งานและการแข่งขันแน่นอน
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
4. ลักษณะของสนามตะกร้อ
ลักษณะสนามตะกร้อ มีลักษณะเฉพาะที่เหมาะสม สำหรับการแข่งขันและการเล่นตะกร้อ ลักษณะของ พื้นสนามตะกร้อ มีองค์ประกอบหลักต่อไปนี้:

- พื้นสนาม: สนามตะกร้อมักจะมีพื้นสนามตะกร้อที่ราบและเรียบ โดยมักใช้วัสดุเช่น ลูกบอลลายพื้น หรือพื้นที่รองรับลูกบอลในการเล่น เพื่อให้มีการเคลื่อนไหวและการสะท้อนของลูกบอลที่สม่ำเสมอ
- เสาตี: เสาตีใช้สำหรับแขวนเครื่องประดับตะกร้อ มักจะมีความสูงประมาณ 43 เมตร (8 ฟุต) สำหรับผู้ชายและ 2.24 เมตร (7.4 ฟุต) สำหรับผู้หญิง โดยจะติดตั้งไว้ในด้านข้างของสนาม
- เสาขอบสนาม: เสาขอบสนามสนามตะกร้อ ใช้สำหรับครอบแนวของสนามตะกร้อ และมักจะมีความสูงประมาณ 1 เมตร (3 ฟุต) โดยจะติดตั้งรอบสนามตะกร้อ
- เส้นข้างสนาม: เส้นข้างสนามตะกร้อ ใช้เพื่อกำหนดขอบเขตของสนามตะกร้อ และมักจะมีความยาว 18 เมตร (59 ฟุต) และความกว้าง 9 เมตร (5 ฟุต)
- เส้นกึ่งกลาง: เส้นกึ่งกลางใช้ในการแบ่งสนามตะกร้อเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน โดยมักจะมีเส้นกึ่งกลางยาวตั้งฉากจากเสาตีถึงเสาตี และเส้นกึ่งกลางยาวตั้งฉากจากเสาขอบสนามถึงเสาขอบนสนามตะกร้อ
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
5. คุณสมบัติของพื้นสนามตะกร้อ
คุณสมบัติพื้นสนามตะกร้อ มีความสำคัญต่อการเล่นและการแข่งขัน ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้:
- ราบและเรียบ: พื้นสนามตะกร้อควรเป็นพื้นที่มีความราบและเรียบเพื่อป้องกันการได้รับบาดเจ็บขณะเคลื่อนที่และเล่น
- เสาตีเหนือพื้นสนามตะกร้อ : เสาตีพื้นสนามตะกร้อ ควรถูกติดตั้งให้มีความสูงที่เหมาะสมเพื่อให้ลูกตะกร้อสามารถโดดเตะเพื่อตีมาได้โดยไม่ติดขอบสนามตะกร้อ
- ไม่มีสิ่งกีดขวาง: พื้นสนามตะกร้อ ไม่ควรมีสิ่งกีดขวาง ที่อาจก่อให้เกิดอุปสรรคในการเคลื่อนที่ของผู้เล่นหรือการเคลื่อนที่ของลูกตะกร้อ
- มีความยืดหยุ่น: พื้นสนามตะกร้อ ควรมีความยืดหยุ่นในการสะท้อนลูกตะกร้อ เพื่อให้เกิดการเล่นที่สม่ำเสมอและเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
- ทนทานและคงที่: พื้นสนามตะกร้อ ควรมีความทนทานและคงที่เพื่อให้สามารถรับน้ำหนักและการใช้งานที่ส่วนแข็งสม่ำเสมอ
- ระบายน้ำ: พื้นสนามตะกร้อ ควรมีระบบระบายน้ำที่ดีเพื่อป้องกันการสะสมของน้ำซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้นสนามตะกร้อ
- สีที่เหมาะสม: สีของพื้นสนามตะกร้อ ควรจะไม่สร้างความสับสนกับลูกตะกร้อ และควรมีสีที่เหมาะสมสำหรับมองเห็นการเล่นและการแข่งขัน
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
6. การเลือกใช้สีทาพื้นสนามตะกร้อ ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง
สีทาพื้นสนามตะกร้อ มักจะเลือกใช้สีที่เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพแวดล้อม สีทาพื้นสนามตะกร้อ ที่นิยมใช้สำหรับทาพื้นสนามตะกร้อ มักเป็น สีส้มเข้มหรือสีเทาเข้ม เพราะสีเหล่านี้มักจะมีความสว่างและและทำให้มองเห็นลูกตะกร้อ ได้ดี

การเลือกใช้สีทาพื้นสนามตะกร้อ ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของสภาพแวดล้อม
- หากสนามตะกร้ออยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดมากและมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ควรเลือกใช้สีทาที่มีคุณสมบัติทนทานต่อแสงแดดและอุณหภูมิสูงได้ดี เพื่อป้องกันการลดคุณภาพของสี
- ในขณะเดียวกัน การใช้สีทาพื้นสนามตะกร้อ ที่มีความสว่างและสีที่สามารถสะท้อนแสงได้ดีอาจช่วยให้ผู้เล่นมีสภาพอารมณ์ที่ดีขึ้น ในการเล่นและแข่งขันในสนามตะกร้อได้ด้วย
- ดังนั้นควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้เป็นทางเลือกในการใช้สีทาพื้นสนามตะกร้อ ที่เหมาะสมในการทาสีพื้นสนามตะกร้อได้อย่างเหมาะสม
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
7. ประเภทสีทาพื้นสนามสนามตะกร้อ
สีทาพื้นสนามตะกร้อ แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะและคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้:
- สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี Acrylic: สี Acrylic มักถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในสนามตะกร้อ เนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพอากาศและการใช้งาน และมีความสามารถในการทนต่อการสะเทือนและการใช้งานที่เป็นบริเวณ
- สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี Expoxy: สี Expoxy มักถูกใช้เป็น สีทาพื้นสนามตะกร้อเนื่องจากมีคุณสมบัติการป้องกันจากการลื่นไถลที่ดี และมีความทนทานต่อสภาพอากาศและการใช้งาน
- สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี PU(Polyurethane): สี PU ที่ผสมระหว่าง Acrylic และExpoxy มักให้คุณสมบัติที่ดีทั้งในเรื่องของความทนทาน การป้องกันการลื่นไถล และการสะท้อนแสง
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
8. พื้นสนามตะกร้อ มีกี่ประเภท
พื้นสนามตะกร้อ สามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภทตามวัสดุที่ใช้ในการสร้าง มีดังนี้:
- พื้นสนามตะกร้อคอนกรีต: พื้นสนามตะกร้อคอนกรีต เป็นพื้นสนามที่นิยมใช้มากที่สุดเนื่องจาก พื้นสนามตะกร้อคอนกรีต มีความทนทานและคงทนต่อการใช้งาน และมีความสามารถในการปรับเพิ่มเติมคุณสมบัติต่างๆ ตามความต้องการ เช่น ความยืดหยุ่น การรับแรงกระแทก หรือความสวยงาม
- พื้นสนามตะกร้อยาง PVC: พื้นสนามตะกร้อยาง PVC มักใช้ในสนามตะกร้อระดับต่ำหรือสนามตะกร้อ ที่มีการใช้งานไม่สม่ำเสมอ ส่วนใหญ่จะเป็นสนามตะกร้อที่ติดตั้งอยู่ในบ้านหรือสนามในชุมชน
- พื้นสนามตะกร้อกระเบื้อง: พื้นสนามตะกร้อกระเบื้อง มักใช้ในสนามตะกร้อที่ต้องการความสวยงามและความสะดวกสบายในการบำรุงรักษา แต่มักมีราคาที่สูงกว่า
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
9. สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี Acrylic
ข้อดี – สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี Acrylic
-
สี Acrylic ความทนทาน: สี Acrylic มีความทนทานต่อการใช้งานในสภาพที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เช่น การกระแทก การเล่นกีฬา ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในสนามตะกร้อที่มีการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
-
สี Acrylic ความทนทานต่อสภาพอากาศ: สี Acrylic มีความทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆ เช่น แดด ฝน หรือความชื้น ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้ในสถานที่กลางแจ้งได้
-
สี Acrylic มีกำจัดคราบ: สี Acrylic มีคุณสมบัติที่ช่วยลดการจับติดของคราบหรือสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในสนามตะกร้อ เช่น ฝุ่น อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่น ซึ่งทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
-
สี Acrylic มีความยืดหยุ่น: สี Acrylic มีความยืดหยุ่นที่ดี ทำให้พื้นสนามตะกร้อ ไม่แตกร้าว เมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือได้รับแรงกระแทก
-
สี Acrylic มีสีสวยและหลากหลาย: สี Acrylic มีสีสวยงามและมีหลากหลายสีให้เลือกใช้ตามความต้องการของผู้ใช้ ทำให้สามารถปรับใช้สีพื้นสนามตะกร้อ ให้เหมาะสมกับสนามตะกร้อได้ตามต้องการของผู้ใช้

ข้อเสีย – สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี Acrylic
-
ความเป็นกระดาน: บางครั้งสี Acrylic อาจมีความเป็นกระดานที่น้อยกว่าสีอื่น ๆ ทำให้ผู้เล่นอาจมีความเสี่ยงต่อการลื่นไหลในสนาม เรียกว่า “สไลด์” ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
-
ความต้องการเวลาในการแห้ง: สี Acrylic อาจต้องใช้เวลาในการแห้งนานกว่าสีอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้มีเวลาติดตั้งสนามนานขึ้น และอาจมีการใช้สนามได้ช้าลง
-
ราคาสูง: สี Acrylic มักมีราคาสูงกว่าสีทาพื้นสนามอื่น ๆ ที่ใช้ในการทาพื้นสนาม ซึ่งอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายในการสร้างหรือปรับปรุงสนามสูงขึ้น
-
ความซับซ้อนในการติดตั้งและการดูแลรักษา: การที่สี Acrylic มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและการใช้งานสูง ทำให้การติดตั้งและการดูแลรักษาสนามต้องมีความซับซ้อนและความรอบรู้เพิ่มเติมในการดูแลรักษาเท่านั้น
-
อาจมีการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น: ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมหรือมีการใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง สี Acrylic อาจมีการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อความทนทานและความแข็งแรงของพื้นสนามตะกร้อในระยะยาว
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
10. สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี PU(Polyurethane)
สีทาพื้นสนามสนามตะกร้อแบบ PU (Polyurethane) เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในการใช้งานเนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสม
ข้อดี – สีทาพื้นสนามสนามตะกร้อ สี PU (Polyurethane)
- ความทนทานและเสถียรภาพ: สีทา PU เป็นที่รู้จักด้วยความทนทานที่ดี ต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย มันสามารถทนต่อการเดิน การกระทำของสารเคมี และการสะเก็ดของลูกบาดเจ็บได้
- ความยืดหยุ่น: สีทา PU มีความยืดหยุ่นที่เหมาะสมที่ช่วยให้มีความคงทนต่อการบิดงอและการยืดหยุ่นขณะการใช้งาน นี่เป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการลดความเสียหายของพื้นสนาม
- ความเรียบเนียน: สีทา PU มีพื้นผิวที่เรียบเนียน ทำให้ผู้เล่นเล่นสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นและสะดวกสบาย และช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บ
- การดูแลรักษาง่าย: สีทา PU มักมีคุณสมบัติที่ง่ายต่อการดูแลรักษา มันสามารถทำความสะอาดได้ง่ายโดยใช้น้ำหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป
- สีสันและความสวยงาม: สีทา PU มีความสามารถในการเลือกสีที่หลากหลาย และสามารถปรับแต่งให้สอดคล้องกับการออกแบบและสถานที่ต่าง ๆ
- ความสามารถในการกันลื่น: สีทา PU มักมีส่วนผสมที่ช่วยลดการเกิดการลื่นบนพื้นสนาม ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับนักกีฬาที่ต้องการความเสถียรภาพในการเคลื่อนที่
- การเติมและซ่อมแซมง่าย: สีทา PU มีคุณสมบัติที่ง่ายต่อการเติมและซ่อมแซม เมื่อมีความเสียหายหรือแตกแต่ง ผู้ดูแลสนามสามารถซ่อมแซมได้โดยรวดเร็วและง่ายด้วยตนเอง

ข้อเสีย – สีทาพื้นสนามสนามตะกร้อ สี PU (Polyurethane)
- ราคาสูง: สีทา PU มักมีราคาที่สูงกว่าสีทาพื้นสนามอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดในกรณีที่มีงบจำกัดสำหรับการจัดสนาม การเลือกใช้สีทา PU อาจทำให้ต้องตัดสนใจเลือกยอมรับความสำคัญของคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุดที่เป็นไปได้ต่อการใช้งาน
- ความหนาแน่นของการทา: การใช้สีทา PU อาจต้องการการทาหรือการจัดการและมีความยุ่งยากมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสีทาอื่น ๆ ที่ง่ายต่อการใช้งาน สำหรับผู้ที่ไม่มีความชำนาญหรือความรู้เกี่ยวกับการทาสีอาจต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
- การแขวนฝุ่น: สีทา PU มักมีความเรียบเนียนและผิวพื้นที่ไม่มีรอยขีดข่วน ซึ่งอาจทำให้มีแนวโน้มที่จะแขวนฝุ่นและสะสมสิ่งสกปรกได้มากขึ้น
- การควบคุมการลื่นของพื้นสนาม: สีทา PU อาจมีความลื่นมากเกินไปทำให้ผู้เล่นลื่นไปมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บได้
- การทำลายของแสงแดด: สีทา PU อาจมีความทนทานต่อแสงแดดไม่ดีเท่ากับสีทาพื้นสนามอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้สีเสื่อมสลายและสลายไปเร็วขึ้นในระยะยาว
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
11. สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี Expoxy
1.ความทนทานสูง: สี Epoxy เป็นระบบสีที่มีความทนทานสูงต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวอย่างมาก เช่น สนามตะกร้อ โดยสามารถทนทานต่อแรงกระแทก การลื่นไหล และการสัมผัสกับอุปกรณ์กีฬาอื่น ๆ ได้ดี
2. ความทนทานต่อสภาพอากาศ: สี Epoxy มีความทนทานต่อสภาพอากาศและแสง UV ที่ดี ไม่เปลี่ยนสีหรือลดความชัดของสีในระยะยาว ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสนามตะกร้อกลางแจ้ง
3.ความเรียบเนียนและความสวยงามของผิว: สี Epoxy มีพื้นผิวที่เรียบเนียนและดูสวยงาม ซึ่งช่วยให้สนามตะกร้อ มีลุคที่ดูดีและมีความเป็นมืออาชีพ
4.การดูแลรักษาง่าย: สี Epoxy มีการดูแลรักษาที่ง่าย เพียงแค่ทำความสะอาดผิวสีเป็นระยะๆ และไม่ต้องการการบำรุงรักษาเพิ่มเติมอย่างน้อย
5.ความหลากหลายในการใช้งาน: สี Epoxy มีความหลากหลายในการใช้งาน สามารถปรับแต่งสีและลวดลายตามความต้องการของลูกค้าได้ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสนามตะกร้อ ตามความต้องการและการใช้งานที่แตกต่างกัน

ข้อเสีย – สีทาพื้นสนามตะกร้อ สี Expoxy
-
ความซับซ้อนในการติดตั้ง: การติดตั้งสี Epoxy อาจต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและเพิ่มความซับซ้อนในการดำเนินงาน เช่น การผสมสีอย่างถูกต้องและการทาสีสนามตะกร้อ ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและคงทน
-
เรื่องของค่าใช้จ่าย: การใช้สี Epoxy มักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสีทาพื้นสนามตะกร้อ อื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้โครงการต้องใช้งบประมาณสูงขึ้น
-
ความเป็นกระดาน: บางครั้งสี Epoxy อาจมีความเป็นกระดานที่น้อยกว่าสีอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นมีความเสี่ยงต่อการลื่นไหลในสนาม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ
-
เวลาในการแห้ง: สี Epoxy อาจต้องใช้เวลาในการแห้งนานกว่าสีอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้มีเวลาติดตั้งพื้นสนามตะกร้อ นานขึ้นและมีเวลาในการใช้งานน้อยลง
-
ความต้องการการบำรุงรักษา: การดูแลรักษาสี Epoxy อาจต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้น เนื่องจากอาจต้องมีการทำความสะอาดและการบำรุงรักษาเพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาความทนทานและความสวยงามของพื้นสนามตลอดเวลา
เนื่องจากกีฬาตะกร้อต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
12. การดูแลรักษาพื้นสนามตะกร้อ
การดูแลรักษาพื้นสนามตะกร้อ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้พื้นสนามตะกร้อ ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและประสบความสำเร็จในการใช้งานอย่างยาวนาน
- ทำความสะอาดพื้นสนามตะกร้ออย่างสม่ำเสมอ: ควรทำความสะอาดพื้นสนามตะกร้ออย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นที่สะสมอยู่บนพื้นพื้นสนามตะกร้อ สามารถใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นเพื่อช่วยในการทำความสะอาดได้
- ป้องกันการชำรุดพื้นสนามตะกร้อ: การแก้ไขทรุดหนักที่เกิดขึ้นบนพื้นสนามตะกร้อเร็วๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายของพื้นสนามตะกร้อในระยะยาว นอกจากนี้ ควรเร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขและป้องกันการเกิดรอยบาดเจ็บของผู้เล่น
- การรักษาสีทาพื้นสนามตะกร้อ: หากพื้นสนามตะกร้อได้รับการทาสี ควรดูแลรักษาการสีพื้นสนามตะกร้ออย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการร่วงหล่นของสีและเสียหายจากสภาพอากาศ
- รักษาระบบระบายน้ำของพื้นสนามตะกร้อ: ระบบระบายน้ำบนพื้นสนามตะกร้อควรรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของน้ำที่อาจทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพและความเสียหายต่อสภาพพื้นสนามตะกร้อ
- การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์พื้นสนามตะกร้อ: ต้องคอยตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์สนามต่างๆ เช่น เสาตะกร้อ เครื่องเลื่อยตัดตะกร้อ เครื่องวัดความสูงของเสาตะกร้อ เป็นต้น เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ