1. สนามแบดมินตัน 

2. พื้นสนามแบดมินตัน 

3. ขนาดของพื้นสนามแบดมินตัน 

4. ลักษณะสนามแบดมินตัน

5.คุณสมบัติของพื้นสนามแบดมินตัน 

6. ลักษณะสนามแบดมินตัน

7. สีพื้นสนามแบดมินตัน 

8. การเลือกใช้สีพื้นทาสนามแบดมินตัน ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง

9. ประเภทสีทาพื้นสนามแบดมินตัน

10. สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี Acrylic

11. สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี pu

12. การดูแลรักษาพื้นสนามแบดมินตัน

สนามแบดมินตัน คือ สนามแบดมินตันเป็นพื้นที่ ที่ใช้ในการแข่งขันและฝึกซ้อมกีฬาแบดมินตัน มันมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมมีขนาดที่กำหนด โดยกติกาของกีฬาแบดมินตัน นอกจากนี้ยังมีลานเปล่ารอบๆ ยังมีสนามเพื่อให้ผู้ชมและผู้ร่วมเล่นสามารถเข้าใจและรับชมการแข่งขันได้อย่างสะดวกสบาย

ลักษณะของสนามแบดมินตันทั่วไปมีดังนี้:

ขนาด: สนามแบดมินตันมักมีความยาวประมาณ 13.4 เมตร (44 ฟุต) และความกว้างประมาณ 6.1 เมตร (20 ฟุต) สำหรับเกมคู่และ 5.18 เมตร (17 ฟุต) สำหรับเกมเดี่ยว

เส้นขอบ: สนามแบดมินตันมักมีเส้นขอบที่มองเห็นได้ชัดเจนบนพื้นสนามแบดมิน แบ่งเป็นสองส่วนหรือสี่เส้น โดยสองเส้นอยู่ในแต่ละข้างของสนามสนามแบดมินและสองเส้นที่เฉียงตรงกลางขอบ

พื้นสนาม: พื้นสนามแบดมินตันมักเป็นพื้นสีเขียวหรือสีเทาที่เป็นพื้นนุ่ม เพื่อช่วยให้นักกีฬาสามารถเคลื่อนที่ได้สะดวกและลดการบาดเจ็บในระหว่างการเล่น

เสากั้น: การตกแต่ง: สนามแบดมินตันอาจมีการตกแต่งเพิ่มเติม เช่น เครื่องปรับแสง และแผนที่สนาม เพื่อสร้างประสบการณ์การแข่งขันที่ดีให้กับนักกีฬาและผู้ชมสนามแบดมินตันมักมีเสากั้นที่ตั้งขึ้นตามขอบของพื้นสนามแบดมิน

พื้นสนามแบดมินตัน วัสดุที่ใช้สร้างพื้นสนามแบดมินตันมักมีความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการเล่น วัสดุที่พบบ่อยสำหรับพื้นสนามแบดมินตันได้แก่:

• พื้นสนามแบดมินตันสังเคราะห์: พื้นสนามแบดมินตัน แบบสังเคราะห์จะมี 2 ประเภทหลักด้วยกัน ได้แก่ PVC และ Acrylic โดย PVC เป็นที่นิยมเพราะมีคุณสมบัติกันลื่นได้ดี มีจำหน่ายในรูปแบบของเสื่อ ทำให้ง่ายต่อการปูและจัดเก็บ ส่วนใหญ่จะปูไว้บนพื้นไม้อีกที ส่วน Acrylic มีคุณสมบัติในการป้องกันการลื่นที่สามารถใช้สำหรับเกมเอนกประสงค์ มีหลายสีและหลายประเภทที่สามารถเลือกใช้ได้
• พื้นสนามแบดมินตัน แบบกระเบื้องโมดูลาร์: เป็นพื้นสนามแบดมินตันที่มักใช้กับสนามกลางแจ้ง เพราะผสมผสานคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมของพื้นไม้และพีวีซี คือ ป้องกันการลื่นและกันน้ำได้ดีเยี่ยม, ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา, ทำความสะอาดและบำรุงรักษาง่าย รวมทั้งมีความทนทานสูง
• พื้นสนามแบดมินตันยาง (Rubber): พื้นสนามแบดมินตัน แบบพื้นยาง เป็นวัสดุปูพื้นสนามแบดมินตัน มักจะมีความยืดหยุ่นและเนื้อนุ่มที่ทำให้ช่วยลดอาการบาดเจ็บและแรงกระแทกจากการเล่นกีฬาได้ดี เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีการเคลื่อนไหวมากๆ และดูแลรักษาง่าย
• พื้นสนามแบดมินตันแผ่นไม้ (Wood): พื้นสนามแบดมินตัน ที่ใช้พื้นสนามแผ่นไม้มักจะมีความแข็งแรงและคงทน และมีลักษณะทางกายภาพที่เหมาะสมสำหรับการเล่นแบดมินตัน

1. สนามแบดมินตัน – สนามเดี่ยว (Single Court):

• ความยาว: 13.4 เมตร (44 ฟุต)
• ความกว้าง: 5.18 เมตร (17 ฟุต)

2. สนามแบดมินตัน – สนามคู่(Double Court):

• ความยาว: 13.4 เมตร (44 ฟุต)
• ความกว้าง: 6.1 เมตร(20 ฟุต)

4. ลักษณะของสนามแบดมินตัน

ลักษณะของสนามแบดมินตัน คือ

1. สนามแบดมินตัน ต้องเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดตีกว้าง 40 มิลลิเมตร ตามแบบที่กำหนด
2. เส้นต้องตีสีขาว สนามแบดมินตัน ให้เห็นชัด พื้นสนามแบดมินตัน ต้องทาพื้นเขียว
3. ตีเส้นสนามแบดมินตันให้ถูกจุด เช่น เส้นหลังการส่ง, เส้นส่งลูกสั่น, เส้นหลังการส่งประเภทคู่, เส้นเดี่ยวข้าง, เส้นคู่ข้างสนาม
4.  เสาตาข่ายสูง 1.55 เมตร ต้องขึงตาข่ายให้ตึงไม่หย่อนทั้งสองฝั่ง ใช้ลวดหรือเชือกมัดให้แน่น
5. เส้นตาข่ายสนามแบดมินตัน ต้องเลือกใช้สีขาว เพราะเป็นสีสบายตาไม่ขัด ร้อยทักไปมาไม่เกิน 15 มิลลิเมตร 20 มิลลิเมตร เพื่อป้องลูกขนไก่ลอดผ่านช่อง
6. ความกว้างของตาข่ายต้องมี 760 มิลลิเมตร แล้วความยาวต้องไม่น้อยไปกว่า 6.1 เมตร

5. คุณสมบัติของพื้นสนามแบดมินตัน

พื้นสนามแบดมินตันมีคุณสมบัติต่างๆ ที่ถูกออกแบบเพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นและการแข่งขัน นี่คือบางคุณสมบัติที่สำคัญของพื้นสนามแบดมินตัน:

1. ความนุ่มของพื้นสนามแบดมินตัน: พื้นสนามแบดมินตัน มักมีความนุ่มเป็นพิเศษเพื่อลดการกระแทกของนักเล่นและลดการบาดเจ็บในขณะที่เคลื่อนที่ วัสดุที่มักใช้ในการสร้างพื้นสนามแบดมินตัน รวมถึงยางหรือพลาสติกที่มีคุณสมบัตินุ่มและยืดหยุ่น
2. ความเรียบของพื้นสนามแบดมินตัน: พื้นสนามแบดมินตัน ควรมีพื้นผิวที่เรียบเนียนและไม่มีความเก่าและรอยแตก ซึ่งจะช่วยให้การเคลื่อนที่ของนักเล่นมีความเสถียรและตอบสนองได้ดี
3. ลดแสงสะท้อน: พื้นสนามแบดมินตัน ควรมีความสามารถในการลดแสงสะท้อน ซึ่งช่วยลดการกระพริบแสงและช่วยให้นักเล่นมองเห็นลูกได้ชัดเจน
4. ความทนทานของพื้นสนามแบดมินตัน: พื้นสนามแบดมินตัน ควรมีความทนทานต่อการใช้งานระยะยาวและต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น ความทนทานต่อน้ำ ความทนทานต่อสภาพอากาศ และความทนทานต่อการใช้งานประจำ
5. ขนาดและมาตรฐานของพื้นสนามแบดมินตัน: พื้นสนามแบดมินตัน ต้องมีขนาดและมาตรฐานที่ถูกกำหนดโดยกติกาของกีฬา โดยมักมีขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการแข่งขันที่ระดับชาติ โลกหรือระดับสำหรับฝึกซ้อมในสนามแบบอื่น ๆ

6. สีพื้นสนามแบดมินตัน

สีทาพื้นสนามแบดมินตัน มักถูกเลือกโดยพิจารณาความสะดวกสบายในการเล่นและการมองเห็นลูกขนไก่ ได้ชัดเจนของนักกีฬา สีทาพื้นสนามแบดมินตัน ที่เหมาะสมสำหรับพื้นสนามแบดมินตันมักมีคุณสมบัติดังนี้: 

 

1. สีเขียวหรือสีน้ำเงิน  เป็สีทาพื้นสนามแบดมินตัน ที่มักจะมองเห็นในสนามแบดมินตันทั่วไป เหตุผลที่สีเขียวหรือน้ำเงินถูกเลือกมากกว่า เนื่องจาก

• มีผลต่อการมองเห็นลูกแบดมินตันได้ดีขึ้น
• สีเขียวหรือน้ำเงินมักจะลดการสะท้อนแสงที่อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นลูกแบดมินตันขณะเคลื่อนที่บนพื้นสนามได้ดี
• ช่วยให้ผู้เล่นสามารถรับรู้ทิศทางและระยะทางของลูกได้ไวขึ้นในสถานการณ์การแข่งขันที่เร็วต่อเนื่อง
• ดังนั้น สีเขียวหรือน้ำเงินเข้มมักถูกเลือกเป็นสีพื้นสนามแบดมินตันที่ยอมรับในมาตรฐานสูงสุดของกีฬาแบดมินตันโดยทั่วไป.

1. สีเทา: สีเทามักถูกใช้ในสนามแบดมินตันเป็นสีพื้นหลักหรือสีพื้นต่อเนื่อง เพราะมีลักษณะที่เรียบง่ายและสวยงาม สีเทายังช่วยให้นักเล่นมองเห็นลูกได้ชัดเจนและไม่มีการสะท้อนแสงจากพื้นสนาม
2. สีดำ: สีดำมักใช้เป็นสีเสริมหรือสีสำรองในสนามแบดมินตัน โดยเฉพาะสำหรับเส้นขอบและส่วนของสนามที่ไม่ได้ใช้ในการเล่น สีดำมีลักษณะเป็นสีเสียหายและให้ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับสนาม

7. การเลือกสีทาพื้นสนามแบดมินตัน ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง

การเลือกใช้สีพื้นทาสำหรับสนามแบดมินตัน มีบางปัจจัยที่ควรคำนึงถึง เพื่อให้สนามแบดมินตันมีประสิทธิภาพและเหมาะสมสำหรับการเล่นและการแข่งขัน ดังนี้

ความคงทนและทนทาน: สีทาพื้นสนามแบดมินตัน ควรมีความทนทานต่อการใช้งานระยะยาว และสามารถทนต่อการสัมผัสกับรอยเท้า การเลือกใช้สีทาพื้นสนามแบดมินตัน ที่ทนทานจะช่วยลดความสกปรกและการเสื่อมสภาพของพื้นสนามแบดมินตัน ในระยะเวลาที่ยาวนาน

ความสามารถในการสะท้อนแสง: สีทาพื้นสนามแบดมินตัน ควรมีความสามารถในการสะท้อนแสงให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดการกระพริบแสงที่อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของนักเล่นและการตอบสนองต่อการเคลื่อนที่

การเห็นและการชักช้าของลูก: สีทาพื้นสนามแบดมินตัน ควรช่วยให้ลูกแบดมินตันมีความชัดเจนและโดดเด่นบนพื้นสนามแบดมินตัน ซึ่งช่วยให้นักเล่นสามารถเห็นและตอบสนองต่อการเคลื่อนที่ของลูกได้อย่างทันท่วงที

การตกแต่ง: การเลือกใช้สีที่เหมาะสมยังควรพิจารณาถึงการตกแต่งสนามและการสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจสำหรับผู้เล่นและผู้ชม

ความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม: การเลือกสีทาพื้นสนามแบดมินตัน ควรพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมที่รอบข้างสนามแบดมินตัน โดยคำนึงถึงสภาพอากาศและการสะท้อนแสงภายนอกที่อาจมีผลต่อการเล่นและการชมการแข่งขัน

8. ประเภทสีทาพื้นสนามแบดมินตัน 

สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท ตามวัตถุดิบและคุณสมบัติของการใช้งาน นี่คือบางประเภทของสีทาพื้นสนามแบดมินตันที่พบได้:

1. สีทาพื้นสนามแบดมินตัน – สีน้ำ: นี่เป็นสีทาพื้นสนามแบดมินตัน ที่มีความนิยมในการใช้ทาพื้นสนามแบดมินตัน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีในการเส้นเสียงและมีสีสันที่สวยงาม สีทาน้ำมักมีการสร้างชั้นที่แข็งและทนทานต่อการใช้งาน
2. สีทาพื้นสนามแบดมินตัน – สี Acrylic: สีAcrylic เป็นตัวเลือกที่มีความทนทานและสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมก่อนหน้านี้ได้ เช่น ในสนามกลางแจ้ง และมีความต้านทานต่อการเสื่อมสภาพจากแสงแดดและสภาพอากาศ
3. สีทาพื้นสนามแบดมินตัน – สี PU (Polyurethane): สีทา PU เป็นสีทาพื้นสนามแบดมินตัน ที่มีความทนทานและคงทนต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิและความชื้นสูง เหมาะสำหรับการใช้งานภายในหรือภายนอกโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสีหรือพื้นสนาม

9.สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี Acrylic

สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี Acrylic มักมีความนิยมในการใช้งานเนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีทั้งในด้านการทนทานและการใช้งาน สีทาแบบอะคริลิคมักมีคุณสมบัติดังนี้

1. ความทนทาน: สี Acrylic มีความทนทานต่อการใช้งานและการเล่นในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น ความทนทานต่อการเดิน เลื่อย และการใช้งานประจำ
2. ความยืดหยุ่น: สีAcrylic สีทาพื้นสนามแบดมินตัน แบบสีAcrylic มีความยืดหยุ่นที่ช่วยให้ลดการแตกแต่ง และการเกิดรอยขีดข่วนในระยะยาว
3. ความเรียบเนียน: สีAcrylic มีพื้นผิวที่เรียบเนียนและเป็นรอยได้ง่าย ซึ่งช่วยให้นักเล่นและลูกบาดเจ็บสามารถเคลื่อนที่ได้สะดวกและเรียบง่าย
4. ความเป็นกันสนิม: สีAcrylic มักมีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันการเกิดสนิมในพื้นสนามแบดมินตัน ทำให้สนาสนามแบดมินตัน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดี
5. ความสามารถในการเติมและซ่อมแซม: สีสีAcrylic มักมีคุณสมบัติที่ง่ายต่อการเติมและซ่อมแซม เมื่อมีความเสียหายหรือแตกแต่ง ผู้ดูแลสนามสามารถซ่อมแซมโดยรวดเร็วและง่ายด้วยตนเองได้

ข้อเสีย สีทาพื้นสนามแบดมินตัน แบบ สี Acrylic

1. ความทนทานต่ำในสภาพอากาศ: สี Acrylic มักจะไม่ทนทานต่อสภาพอากาศโดยเฉพาะแสงแดดและฝน การใช้งานในสภาพอากาศที่หลากหลายอาจทำให้สีมีอาการลอย ผนังสีหรือเกิดรอยขีดข่วนได้
2. เสียงการกระทบ: สี Acrylic มีความกระด้างน้อย ซึ่งอาจทำให้เกิดเสี่ยงการกระทบบาดเจ็บและอุปกรณ์ในสนามมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นรับระบบอาจมีความไม่สบาย
3. การบำรุงรักษา: การบำรุงรักษา สี Acrylic อาจเรื่องยุ่งยากและต้องการความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องทำความสะอาดและซ่อมแซมอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาความสวยงามและความทนทานของสี
4. ค่าใช้จ่ายสูง: การใช้สี Acrylic อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการใช้สีทาอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้การบำรุงรักษาและการปรับปรุงสนามมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
5. ความยุ่งยากในการซ่อมแซม: เมื่อสี Acrylic เสียหายหรือแตกแต่ง การซ่อมแซมอาจจะมีความยุ่งยากและต้องใช้เวลานาน เนื่องจากต้องทำการเติมที่และเติมสีให้เข้ากับส่วนที่เสียหายอย่างละเอียด
6. เวลาในการแห้ง: สี Acrylic มีเวลาในการแห้งที่นานกว่าสีอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้มีระยะเวลาที่ไม่สามารถใช้งานสนามแบดมินตัน ได้ในช่วงเวลาที่ทางการซ่อมแซม

 

10.สีทาพื้นสนามแบดมินตัน สี PU (Polyurethane) 

สีทาพื้นสนามแบดมินตันแบบ PU (Polyurethane) เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในการใช้งาน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับสนามการแข่งขันและฝึกซ้อมทั้งในระดับทางการและระดับกีฬาสมาชิก สี PU มีลักษณะดังนี้:

ความทนทานและเสถียรภาพ: สีทา PU เป็นที่รู้จักด้วยความทนทานที่ดีต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย 

ความยืดหยุ่น: สีทา PU มีความยืดหยุ่นที่เหมาะสมที่ช่วยให้มีความคงทนต่อการบิดงอและการยืดหยุ่นขณะการใช้งาน นี่เป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการลดความเสียหายของพื้นสนาม

ความเรียบเนียน: สีทา PU มีพื้นผิวที่เรียบเนียน ทำให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นและสะดวกสบาย และช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บ

การดูแลรักษาง่าย: สีทา PU มักมีคุณสมบัติที่ง่ายต่อการดูแลรักษา สามารถทำความสะอาดได้ง่ายโดยใช้น้ำหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป

สีสันและความสวยงาม: สีทา PU สามารถเลือกสีได้หลากหลาย และสามารถปรับแต่งให้สอดคล้องกับการออกแบบและสถานที่ต่าง ๆ

ความสามารถในการกันลื่น: สีทา PU มักมีส่วนผสมที่ช่วยลดการเกิดการลื่นบนพื้นสนาม ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับนักกีฬาที่ต้องการความเสถียรภาพในการเคลื่อนที่

การเติมและซ่อมแซมง่าย: สีทา PU มีคุณสมบัติที่ง่ายต่อการเติมและซ่อมแซม เมื่อมีความเสียหายหรือแตกแต่ง ผู้ดูแลสนามสามารถซ่อมแซมได้โดยรวดเร็วและง่ายด้วยตนเอง

ข้อเสีย สีทาพื้นสนามแบดมินตัน PU (Polyurethane)

สีทาพื้นสนามแบดมินตันแบบ PU (Polyurethane) มีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณาก่อนการใช้งาน โดยข้อเสียที่เป็นไปได้รวมถึง:

1. ราคาสูง: สี PU มักมีราคาที่สูงกว่าสีทาพื้นสนามอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดในกรณีที่มีงบจำกัดสำหรับการจัดสนาม การเลือกใช้ สี PU อาจทำให้ต้องตัดสนใจเลือกยอมรับความสำคัญของคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุดที่เป็นไปได้ต่อการใช้งาน
2. ความหนาแน่นของการทา: การใช้สี PU การทาอาจมีความความยุ่งยากมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสีทาอื่น ๆ ที่ง่ายต่อการใช้งาน สำหรับผู้ที่ไม่มีความชำนาญหรือความรู้เกี่ยวกับการทาสีอาจต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
3. การแขวนฝุ่น: สี PU มักมีความเรียบเนียนและผิวพื้นที่ไม่มีรอยขีดข่วน ซึ่งอาจทำให้มีแนวโน้มที่จะแขวนฝุ่นและสะสมสิ่งสกปรกได้มากขึ้น
4. การควบคุมการลื่นของพื้นสนาม: สี PU อาจมีความลื่นมากเกินไปทำให้ผู้เล่นลื่นไปมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บได้
5. การทำลายของแสงแดด: สี PU อาจมีความทนทานต่อแสงแดดไม่ดีเท่ากับสีทาพื้นสนามอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้สีเสื่อมสลายและสลายไปเร็วขึ้นในระยะยาว

11. การดูแลรักษาพื้นสนามแบดมินตัน

การดูแลรักษาพื้นสนามแบดมินตัน เป็นส่วนสำคัญที่จะให้พื้นสนามแบดมินตัน มีสภาพพร้อมใช้งานและประสบการณ์การเล่นที่ดีสำหรับนักเล่นและผู้เยี่ยมชม ด้านล่างนี้เป็นบางข้อแนะนำในการดูแลรักษาสนามแบดมินตัน

1. ทำความสะอาดประจำ:ทำความสะอาดพื้นสนามแบดมินตันอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ลดความเสียหายและความสกปรก นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เล่นบาดเจ็บน้อยลงด้วย สามารถใช้เครื่องดูดฝุ่น กับเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในสนาม และทำความสะอาดพื้นทางเดิน และทางออกทางเข้า
2. การบำรุงรักษาพื้นสนามแบดมินตัน: การตรวจสอบและซ่อมแซมพื้นสนามแบดมินตันเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้พื้นสนามแบดมินตัน มีความเรียบเนียนและป้องกันการเกิดอันตรายต่าง ๆ ให้กับผู้เล่น และส่งผลให้การเล่นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3. การตรวจสอบและซ่อมแซมอุปกรณ์: ให้ทำการตรวจสอบและซ่อมแซมอุปกรณ์ต่าง ๆ ในสนามอย่างสม่ำเสมอ
4. การควบคุมความชื้น: การควบคุมความชื้นของพื้นสนามแบดมินตัน เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการเสียหายของพื้นสนามแบดมินตันและอุปกรณ์ เช่นการใช้ระบบระบายอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศ
5. การดูแลรักษาพื้นที่รอบๆ: การรักษาความเรียบร้อยของพื้นที่รอบๆ สนามมีความสำคัญเช่นกัน เช่น การตัดหญ้า การกำจัดสิ่งปลิวได้ และการบำรุงรักษาโครงสร้างสนาม
6. การตรวจสอบความปลอดภัย: ควรตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยของสนามอย่างสม่ำเสมอ เช่น การตรวจสอบระบบป้องกันอันตราย การตรวจสอบสัญญาณเตือนภัย และการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้เล่นและผู้เยี่ยมชม