สนามวอลเลย์บอล

    1. สนามวอลเลย์บอล
    2. พื้นสนามวอลเลย์บอล
    3. มาตรฐานของพื้นสนามวอลเลย์บอล
    4. ลักษณะสนามวอลเลย์บอล
    5. มาตรฐานของพื้นสนามวอลเลย์บอล
    6. คุณสมบัติของพื้นสนามวอลเลย์บอล
    7. ประเภทของพื้นสนามวอลเลย์บอล
    8. สีพื้นสนามวอลเลย์บอล
    9. สีทาพื้นสนามวอลเลย์บอล สี Acrylic
    10. การดูแลรักษาพื้นสนามวอลเลย์บอล

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam 

1. สนามวอลเลย์บอล

สนามวอลเลย์บอล คือ พื้นที่ที่ใช้สำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอล ซึ่งเป็นกีฬาทีมที่เล่นระหว่างสองฝ่าย โดยใช้ลูกบอลโดยทั่วไปแล้วจะมีลักษณะคล้ายกับสนามแบดมินตัน

โดยมีขนาดพื้นที่ที่เฉพาะเจาะจง มีเส้นขอบเขตและเส้นอุปสรรคที่กำหนดไว้ ในการแข่งขันมักจะมีองค์กรที่ปฏิบัติการแข่งขันและควบคุมการแข่งขัน โดยใช้กติกาที่มีข้อบังคับและเงื่อนไขในการเล่นอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การแข่งขันมีความยาวนานและเป็นไปอย่างเท่าเทียมแก่ทั้งสองฝ่าย

สนามวอลเลย์บอล

  • เป็นสนามแข่งขันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 18 x 9 เมตร ล้อมรอบด้วยเขตรอบสนาม
  • กว้างอย่างน้อยที่สุด 3 เมตร ทุกด้านที่ว่างสำหรับเล่นลูก คือ ที่ว่างเหนือพื้นที่เล่นลูก ซึ่งไม่มี สิ่งใดกีดขวาง
  • สูงขึ้นไปอย่างน้อยที่สุด 7 เมตร จากพื้นสนามวอลเลย์บอล

สำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) และการแข่งขันอย่างเป็นทางการ

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam 

2. พื้นสนามวอลเลย์บอล

พื้นสนามวอลเลย์บอล จะมีลักษณะเป็นพื้นหินหรือผิวสังเคราะห์ที่เรียบ โดยพื้นสนามวอลเลย์บอลมักจะมีการตกแต่งแบบพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นวอลเลย์บอล เช่น การทาสีสีสันสดใสที่ช่วยให้เห็นขอบเขตของสนามวอลเลย์บอลชัดเจนมากขึ้น อาจมีการวาดเส้นขอบเขตและเส้นประตูให้ตรงไปตรงมา เพื่อช่วยให้ผู้เล่นและผู้ตัดสินเห็นขอบเขตของสนามวอลเลย์บอลได้อย่างชัดเจน 

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam 

3. มาตรฐานของพื้นสนามวอลเลย์บอล

ขนาดและมาตรฐานพื้นสนามวอลเลย์บอล เหล่านี้ถูกกำหนดโดยสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างคล่องตัวและเท่าเทียมสำหรับทุกทีมที่เข้าร่วมในการแข่งขันที่ระดับนานาชาติและโลก มาตรฐานของพื้นสนามวอลเลย์บอลมีรายละเอียดดังนี้:

 

  1. พื้นสนามวอลเลย์บอล – ขนาดพื้นที่เล่น:
    • ความยาว: 18 เมตร (59 ฟุต)
    • ความกว้าง: 9 เมตร (5 ฟุต)
    • พื้นที่รวม: 162 ตารางเมตร (1,744 ตารางฟุต)
  2. พื้นสนามวอลเลย์บอล – เส้นขอบเขต:
    • เส้นขอบเขตสูงสุด (Antenna): ยาว 8 เมตร (5.9 ฟุต) และติดอยู่ที่เส้นขอบเขตทางด้านข้าง
    • เส้นขอบเขตด้านข้าง (Side Line): เป็นเส้นขอบเขตตามด้านข้างของสนามวอลเลย์บอล 
  3. พื้นสนามวอลเลย์บอล – เส้นบอล:
    • เส้นบอล (Center Line): แบ่งสนามเป็นสองพื้นที่เท่าๆ กัน
    • เส้นบอลตรงกลาง (Center Line Extension): ต่อเส้นบอลไปยังเส้นขอบเขตด้านท้ายของสนามสนามวอลเลย์บอล 
    • เส้นบอลตรงกลางช่องบุก (Attack Line): ประจำที่ห่างจากเส้นบอลตรงกลาง 3 เมตร (8 ฟุต) ทั้งสองข้างของสนามสนามวอลเลย์บอล 
  4. พื้นสนามวอลเลย์บอล – เส้นตัด (Cross Line):
    • เส้นตัดบน (Attack Line Extension): ตัดกับเส้นขอบเขตทางด้านข้างทั้งสองด้าน
    • เส้นตัดล่าง (Service Line): ห่างจากเส้นบอลตรงกลาง 9 เมตร (5 ฟุต) ทั้งสองข้างของสนามสนามวอลเลย์บอล 
  5. พื้นสนามวอลเลย์บอล – บริเวณเส้นประตู (Goal Area):
    • บริเวณของประตูห่างจากเส้นขอบเขตด้านหลัง 3 เมตร (8 ฟุต)

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam 

4. ลักษณะสนามวอลเลย์บอล

สนามวอลเลย์บอล มีลักษณะเฉพาะที่ถูกกำหนดโดยมาตรฐานของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) และสถาบันกีฬาชาติ (NCAA) โดยลักษณะสำคัญของสนามวอลเลย์บอลประกอบด้วย:

  1. ขนาดพื้นที่สนามวอลเลย์บอล: สนามวอลเลย์บอลมักมีขนาดประมาณ 18 เมตร (59 ฟุต) ยาวและ 9 เมตร (5 ฟุต) กว้าง โดยมีพื้นที่ว่างรอบขอบสนามวอลเลย์บอลอย่างน้อย 3 เมตร (10 ฟุต) และที่สำหรับเป้าหมายอยู่ตรงกลางด้านยาวของสนามวอลเลย์บอล
  2. เส้นขอบเขตสนามวอลเลย์บอล: บริเวณด้านรอบขอบสนามวอลเลย์บอล จะมีเส้นขอบเขตเป็นเส้นของฝั่งและเส้นขอบเขตเป็นเส้นของบริเวณในของสนามวอลเลย์บอล ทั้งสองเส้นนี้มักจะมีเครื่องหมายสีสันสดใส เพื่อช่วยให้ผู้เล่นและผู้ตัดสินเห็นตัวของเส้นขอบได้ชัดเจน
  3. เครื่องหมายประตูสนามวอลเลย์บอล: ในสนามวอลเลย์บอลจะมีเครื่องหมายประตูติดตั้งอยู่ทั้งสองด้านของสนามวอลเลย์บอล ตรงกลางของด้านยาว
  4. พื้นผิวสนามวอลเลย์บอล: สนามวอลเลย์บอลมักจะมีพื้นผิวที่เรียบเนื่องและไม่มีสิ่งกีดขวาง มักใช้วัสดุเช่น หินแกรนิต หรือผิวสังเคราะห์ที่เหมาะสำหรับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น
  5. ระบบไฟฟ้าสนามวอลเลย์บอล: สนามวอลเลย์บอลในสถานที่ที่มีการแข่งขันในตอนกลางคืนหรือในสถานที่ที่ไม่มีแสงสว่างมักจะติดตั้งระบบไฟฟ้าเพื่อให้มีแสงสว่างสำหรับการแข่งขันในช่วงเวลาที่มืด

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam 

5. มาตรฐานของพื้นสนามวอลเลย์บอล

มาตรฐานของพื้นสนามวอลเลย์บอล มักจะประกอบด้วยข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อให้สนามวอลเลย์บอลมีคุณภาพและเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการแข่งขันและการฝึกซ้อม โดยทั่วไปแล้ว มาตรฐานพื้นสนามวอลเลย์บอล มีดังนี้

  1. ขนาดของสนามพื้นสนามวอลเลย์บอล: สนามวอลเลย์บอลมักจะมีขนาดประมาณ 9 เมตร (29.5 ฟุต) ในทิศทางความกว้าง และประมาณ 18 เมตร (59 ฟุต) ในทิศทางความยาว โดยมีพื้นที่ว่างรอบสนามอย่างน้อย 3 เมตร (9.8 ฟุต) ทั้งสองข้างของสนามเพื่อการเคลื่อนไหวของผู้เล่นและผู้ติดตั้ง.

  2. พื้นสนาม: พื้นสนามวอลเลย์บอล มักจะมีความแข็งแรงพอเหมาะสมเพื่อรองรับการกระแทกของผู้เล่นและลูกบอลได้ดี โดยทั่วไปมักใช้วัสดุเสมือนจริงหรือพื้นที่ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับกีฬา.

  3. เส้นขอบสนามพื้นสนามวอลเลย์บอล: เส้นขอบพื้นสนามวอลเลย์บอล มักจะมีสีต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้เล่นและผู้ตัดสินสามารถระบุขอบเขตของสนามได้ง่ายขึ้น.

  4. ระบบไฟฟ้าพื้นสนามวอลเลย์บอล: สนามวอลเลย์บอลอาจมีระบบไฟฟ้าสำหรับการให้แสงสว่างในสนามในเวลาที่มีการแข่งขันหรือฝึกซ้อมในที่ที่มีการแข่งขันในเวลากลางคืน.

  5. ระบบลดการกระเด็นพื้นสนามวอลเลย์บอล: บางสนามอาจมีระบบลดการกระเด็นใต้พื้นสนามเพื่อลดอันตรายจากการกระแทกของผู้เล่น

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam 

6. สีพื้นสนามวอลเลย์บอล

สีของพื้นสนามวอลเลย์บอล มักจะเป็นสีสันสดใสเพื่อช่วยให้เห็นขอบเขตของสนามวอลเลย์บอลด้ชัดเจนขึ้น สีที่ใช้บนพื้นสนามวอลเลย์บอลมักจะเป็นสีที่เข้มหรือสีที่เป็นคู่ขนาดเล็ก อย่างเช่น:

  1. สีน้ำเงินเข้ม: สีพื้นสนามวอลเลย์บอล สีน้ำเงินเข้มเป็นอีกตัวเลือกที่นิยมใช้บนพื้นสนามวอลเลย์บอล เนื่องจากมีความชัดเจนและสามารถเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพอากาศ
  2. สีเขียวเข้ม: สีพื้นสนามวอลเลย์บอล สีเขียวเข้มเป็นอีกสีที่เลือกใช้บนพื้นสนามวอลเลย์บอลเนื่องจากมีความสดใสและช่วยให้ขอบเขตของสนามวอลเลย์บอล เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  3. สีเทาเข้ม: สีพื้นสนามวอลเลย์บอล สีเทาเข้มเป็นตัวเลือกที่สนามวอลเลย์บอล บางแห่งมักจะใช้เพื่อเน้นความโดดเด่นของสีบนบางพื้นที่ของสนามวอลเลย์บอล
  4. สีดำ: สีพื้นสนามวอลเลย์บอล สีดำอาจถูกใช้บนส่วนของสนามวอลเลย์บอล เพื่อเพิ่มความคมชัดและความเรียบร้อยของสีอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การใช้สีดำบนพื้นสนามวอลเลย์บอล มีความนิยมไม่มากเท่ากับสีอื่นๆ ที่กล่าวมาด้านบน

สีทาพื้นสนามวอลเลย์บอล ที่เลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ดูแลสนามวอลเลย์บอลหรือองค์กรที่จัดการ โดยมักจะเน้นไปที่ความสดใสและการเห็นขอบเขตของสนามวอลเลย์บอล ได้ชัดเจนโดยสีที่เลือกใช้ การใช้สีทาพื้นสนามวอลเลย์บอล ที่มีความคมชัดและต่างจากสีของลูกบอลอาจช่วยให้ผู้เล่นและผู้ตัดสินเห็นลูกบอลได้ง่ายขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน เช่น ในสภาพแสงน้อยหรือในสภาพแสงแดดแรง

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam 

7. ประเภทพื้นสนามวอลเลย์บอล

พื้นสนามวอลเลย์บอล สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามวัสดุและลักษณะทางกายภาพของพื้นสนามวอลเลย์บอลได้ดังนี้:

  1. กระเบื้องหรือกระเบื้องยาง: มักใช้ในพื้นสนามวอลเลย์บอลระดับโรงเรียนหรือระดับมหาวิทยาลัย สามารถให้ความยืดหยุ่นและรับแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้ยังง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาด
  2. คอนกรีต: คอนกรีตเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทาน มักใช้สำหรับสนามวอลเลย์บอลระดับสูง มีความเรียบเนียนและคงทนต่อสภาพอากาศ อย่างไรก็ตาม การติดตั้งและบำรุงรักษาคอนกรีตอาจต้องใช้งบในการดูแลที่มากกว่าวัสดุอื่นๆ
  3. พื้นหญ้าเทียม: สำหรับสนามที่ต้องการมีความสมจริงและลดแรงกระแทก มักใช้พื้นหญ้าเทียมที่มีคุณสมบัติทนทานและสมจริงต่อการเล่น
  4. พื้นทราย: บางสนามวอลเลย์บอลสามารถมีพื้นทรายเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อม เหมาะสำหรับการแข่งขันในสนามริมชายหาดหรือสนามนอกอาคาร
  5. พื้นสนามยาง: มักใช้ในการติดตั้งสนามวอลเลย์บอลภายในอาคารหรือสนามล้อแล้ว เพื่อให้มีการยับยั้งการลื่นและป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่นไหล

9. สีทาพื้นสนามวอลเลย์บอล สี Acrylic

การใช้สีทาพื้นสนามวอลเลย์บอล สี Acrylic เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสนามนี้ เนื่องจากสี Acrylic มีคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการใช้งานบนพื้นสนามวอลเลย์บอล ดังนี้:

  1. ความทนทานและคงทน: สี Acrylic มีความทนทานต่อสภาพอากาศและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสนามกีฬาที่มีการใช้งานมาก
  2. ความเรียบร้อยและเป็นฉนวนที่ดี: สี Acrylic มีลักษณะที่เรียบเนียนและสามารถทำให้สนามวอลเลย์บอลดูสวยงามได้อย่างเหมาะสม
  3. เรียบเนียนและเรียบเสมอ: สี Acrylic สามารถทำให้สนามวอลเลย์บอล เรียบเนียนและมีความสม่ำเสมอ
  4. สภาพแวดล้อม: สี Acrylic มักจะมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีกลิ่นและอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
  5. เวลาการทำแห้ง: สี Acrylic มีเวลาการทำแห้งที่รวดเร็ว เราสามารถใช้งานสนามวอลเลย์บอลได้ในเวลาสั้นๆ หลังจากการทาสี
  6. ค่าใช้จ่าย: สี Acrylic มักมีราคาที่เป็นกลางถึงต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในสนามวอลเลย์บอลที่ต้องการความคุ้มค่าในการลงทุน

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam 

10. การดูแลรักษาพื้นสนามวอลเลย์บอล

การดูแลรักษาพื้นสนามวอลเลย์บอล เป็นส่วนสำคัญเพื่อรักษาความทนทานและประสิทธิภาพของสนาม ดังนี้

  1. ความสะอาดประจำวัน: ควรทำความสะอาดพื้นสนามด้วยเครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาดเพื่อเก็บสิ่งสกปรกและเศษขยะออกจากพื้นสนาม เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้พื้นสนามลื่นไหล
  2. การทำความสะอาดและล้างพื้นสนาม: สำหรับสนามที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ควรทำความสะอาดพื้นสนามด้วยน้ำและสบู่เพื่อล้างความสกปรกและความเป็นไปตามธรรมชาติที่สะสมอยู่บนพื้นสนาม จากนั้นใช้น้ำสะอาดเพื่อล้างสิ่งสกปรกและสบู่ที่ตกค้างออกจากพื้นสนาม
  3. การตรวจสอบและซ่อมแซมส่วนเสียหาย: ตรวจสอบสภาพของพื้นสนามเป็นประจำเพื่อตรวจหาส่วนที่เสียหาย เช่น การรอยขีดข่วนหรือการที่เสียหายของลายทางการแข่งขัน และดำเนินการซ่อมแซมหรือปรับปรุงตามความเหมาะสม
  4. การรักษาความสมบูรณ์ของสีทาพื้น: ควรรักษาสีทาพื้นสนามโดยการสำรองสีตามความต้องการและช่วงเวลาที่กำหนด โดยการสีทาพื้นสนามที่ดีและทนทานจะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการใช้งานและสภาพอากาศได้
  5. การดูแลรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์: ควรเก็บรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดูแลรักษาพื้นสนามอย่างเหมาะสม เช่น น้ำยาทำความสะอาด ไม้กวาด และเครื่องดูดฝุ่น เพื่อให้พร้อมใช้งานในการดูแลรักษาในทุกครั้งที่จำเป็น